ออกพรรษา 2567 ตรงกับวันที่เท่าไหร่ ประวัติและความสำคัญตักบาตรเทโว

ออกพรรษา 2567 ตรงกับวันที่เท่าไหร่ ประวัติและความสำคัญตักบาตรเทโว

ออกพรรษา 2567 ปีนี้ ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 17 เดือนตุลาคม ซึ่งจะตรง ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีมะโรง  วันออกพรรษาตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๑ (เพ็ญเดือน ๑๑) ของทุกปี หลังจากที่ผ่านเข้าพรรษาระยะเวลา 3 เดือน

พรรษาของพระภิกษุสงฆ์ หมายถึงพระภิกษุสงฆ์ได้จำพรรษาครบกำหนดไตรมาส ตามพระพุทธบัญญัติแล้ว ท่านมีสิทธิ์ที่จะจาริกไปพักค้างคืนที่อื่นได้ ไม่ผิดพระพุทธบัญญัติและยังได้รับอานิสงส์ (ผลดี) คือ
๑.ไปไหนไม่ต้องบอกลา
๒.ไม่ต้องถือผ้าไตรครบชุด
๓. ลาภที่เกิดขึ้นแก่ท่านมีสิทธิ์รับได้
๔. มีโอกาสได้อนุโมทนากฐินและได้รับอานิสงส์คือได้รับการขยายเวลาของอานิสงส์นั้นออกไปอีก ๔ เดือน

ซึ่งหลังจากที่ออกพรรษาแล้วก็จะเข้าสู่ กฐิน หรือ ทอดกฐิน

ออกพรรษา 2567 ประวัติความสำคัญ และ กิจกรรมออกพรรษา

วันสำคัญหลังจากออกพรรษามีดังนี้

วันปวารณา หรือ วันมหาปวารณา 

อนึ่ง มีชื่อเรียกวันออกพรรษาอีกอย่างหนึ่งว่า ” วันปวารณา หรือ วันมหาปวารณา” มีความหมายว่าพระภิกษุทั้งหลายทั้งพระผู้ใหญ่และพระผู้น้อยต่างเปิดโอกาสอนุญาตแก่กันและกัน ให้ว่ากล่าวตักเตือนกันได้มีคำกล่าวปวารณาเป็นภาษาลี ว่า “สังฆัมภันเต ปะวาเรมิ ทิฎเฐนะ วา สุเตนะ วาปะริสังกายะ วา วะทันตุ มัง อายัส์มันโต อะนุกัทปัง อุปาทายะ ปัสสันโต ปฎิกะริสสามิ”

แปลว่า ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ กระผมขอปวารณาต่อสงฆ์ ด้วยได้เห็นหรือได้ฟังก็ตาม ขอท่านทั้งหลายโปรดอนุเคราะห์ ว่ากล่าวตักเตือนกระผมด้วย เมื่อกระผมมองเห็นแล้ว จักประพฤติตัวเสียเลยใหม่ให้ดี

การที่พระท่านกล่าวปวารณา (ยอมให้ว่ากล่าวตักเตือน) กันไว้ ในเมื่อต่างองค์ต่างต้องจากกันไปองค์ละทิศละทางท่านเกรงว่าอาจมีข้อประพฤติปฏิบัติที่ไม่ดีไม่งามเกิดขึ้น โดยตัวท่านเองรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือมองไม่เห็นเหมือนผงเข้าตาตัวเอง แม้ผลจะอยู่ชิดติดกับลูกนัยน์ตา เราก็ไม่สามารถมองเห็นผลนั้นได้ จำเป็นต้องไหว้วานขอร้องผู้อื่นให้มาช่วยดูหรือต้องใช้กระจกส่องดู เพราะฉะนั้น พระท่านจึงใช้วิธีการกล่าวปวารณาตัดไว้เพื่อท่านรูปอื่นได้เห็นหรือแม้แต่ได้ยินได้ฟัง เรื่องดีไม่ดีไม่งามอะไรก็ตามให้กล่าวแนะนำตักเตือนได้โยไม่ต้องเกรงใจกันทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อยด้วยเจตนาดีต่อกัน คือ พระผู้ใหญ่ก็กล่าวตักเตือนพระผู้น้อยได้และพระผู้มีอาวุโสน้อยก็สามารถกล่าวชี้แนะถึงข้อไม่ดีของพระผู้ใหญ่ได้เช่นกัน โดยที่พระผู้ใหญ่คือผู้มีอาวุโสท่านก็มิได้สำคัญตนผิดคิดว่าท่านทำอะไรแล้วถูกไปหมดทุกอย่าง

เครดิตจากเพจ

ประวัติความเป็นมาวันออกพรรษา และตักบาตรเทโว

เมื่อถึงวันออกพรรษา พุทธศาสนิกชนนับว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะเข้าวัดเพื่อบำเพ็ญกุศลแก่พระสงฆ์ที่ตั้งใจจำพรรษา และตั้งใจปฏิบัติธรรมมาตลอดจนครบไตรมาสพรรษากาลในวันนี้ และเมื่อถึงวันถัดจากวันออกพรรษา 1 วัน (วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11) พุทธศาสนิกชนในประเทศไทยยังนิยมไปทำบุญตักบาตรครั้งใหญ่ เรียกว่า ตักบาตรเทโว หรือ ตักบาตรเทโวโรหณะ เป็นการทำบุญออกพรรษาเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในพุทธประวัติที่กล่าวว่า ในวันถัดจากวันออกพรรษาหนึ่งวัน พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงจากเทวโลกกลับจากการโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในพรรษาที่ 7 แล้วลงมายังเมืองสังกัสสนคร พร้อมกับทรงแสดงโลกวิวรณปาฏิหารย์เปิดโลกทั้งสามด้วย

เครดิตเพจ http://event.sanook.com/day/buddhistlent/

ออกพรรษา 2567

ตักบาตรเทโว

ตักบาตรเทโว หมายถึง การทำบุญตักบาตรในวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลกใน วันมหาปวารณา คือ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือ วันออกพรรษา คำว่า “เทโว” เรียกมาจากคำว่า เทโวโรหณะ (เทว+โอโรหณ) ซึ่งแปลว่า การลงจากเทวโลก

การตักบาตรเทโว เป็นการระลึกถึงวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์เสด็จ หลังจากที่พระองค์แสดงพระอภิธรรมโปรดพระมารดา ทรงจำพรรษาที่นั้นเป็นเวลา 3 เดือน และกลับจากเทวโลก

เครดิต https://travel.trueid.net/detail/rJ7YGEogvwaj

วัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน หลวงปู่อุทัย สิริธโร งานมุทิตาจิตอายุวัฒนมงคล วันที่ 12 มีนาคม 2567

วัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน หลวงปู่อุทัย สิริธโร งานมุทิตาจิตอายุวัฒนมงคล วันที่ 12 มีนาคม 2567

กำหนดการงานมุทิตาจิตอายุวัฒนมงคล ครบรอบ ๘๘ ปี ๖๘ พรรษา #หลวงปู่อุทัย สิริธโร

  • วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗ วัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

หลวงปู่อุทัย งานมุฑิตาจิต 67 วัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน

ขอบคุณเพจ https://www.facebook.com/photo/?fbid=701449415466996&set=a.493488986263041

อ่านข่าวหลวงปู่เพิ่มเติม https://dhamma.watchmekorat.com/

สวดมนต์ข้ามปี 2566 สู่ปี 2567 พร้อมพิกัดวัดดัง เสริมมงคลแก่ชีวิต รับปีมะโรง

สวดมนต์ข้ามปี 2566 สู่ปี 2567 พร้อมพิกัดวัดดัง เสริมมงคลแก่ชีวิต รับปีมะโรง

สวดมนต์ข้ามปี นั้นเป็นที่นิยมกับชาวพุทธเป็นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะจะทำให้รู้สึกจิตใจมีความเบิกบานเหมือนได้รับพลังที่สะอาดสู่จิตใจที่มี ศีล สมาธิ และปัญญา ที่ได้รับจากการสวดมนต์ ซึ่งเป็นการสร้างอานิสงส์และขวัญกำลังใจที่ดี ต่อการก้าวข้ามสู่ปีใหม่ 2567

บท สวดมนต์ข้ามปี ที่นิยมมีดังนี้

บทสวดมนต์ข้ามปี มีดังนี้

บทที่ 1 คำกล่าวบูชาพระรัตนตรัย

อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ

บทที่ 2 บทกราบพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)

บทที่ 3 นมัสการพระพุทธเจ้า

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (3จบ)

บทที่ 4 สมาทานศีล 5

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

บทที่ 5 บทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย 

บทพระพุทธคุณ
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชา จะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถา
เทวมนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ

บทพระธรรมคุณ
สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม
สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก
โอปะนะยิโก ปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหิติ

บทพระสังฆคุณ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทังจัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ

บทที่ 6 บทมงคลสูตร(ป้องกันอันตราย เพิ่มสิริมงคลรับปีใหม่)

เอวัมเม สุตัง ฯ
เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน
อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม อะถะโข อัญญะตะรา เทวะตา
อะภิกกันตายะ รัตติยา อภิกกันตะวัณณา
เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง โอภาเสตะวา
เยนะ ภะคะวา เตนุปะสังกะมิ
อุปะสังกะมิตะวา ภะคะวันตัง อภิวาเทตะวา
เอกะมันตัง อัฏฐาสิ เอกะมันตัง ฐิตา โข สา เทวะตา
ภะคะวันตัง คาถายะ อัชฌะภาสิ
พะหู เทวา มะนุสสา จะ มัคะลานิ อะจินตะยุง
อากังขะมานา โสตถานัง พรูหิ มังคะละมุตตะมัง
อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา
ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา
อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ วินะโย จะ สุสิกขิโต
สุภาสิตา จะ ยา วาจา เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
มาตาปิตุอุปัฏฐานัง ปุตตะทารัสสะ สังคะโห
อะนากุลา จะ กัมมันตา เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ ญาตะกานัญจะ สังคะโห
อะนะวัชชานิ กัมมานิ เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
อาระตี วิระตี ปาปา มัชชะปานา จะ สัญญะโม
อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
คาระโว จะ นิวาโต จะ สันตุฏฐี จะ กะตัญญุตา
กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
ขันตี จะ โสวะจัสสะตา สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง
กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
ตะโป จะ พรัหมะจะริยัญจะ อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง

นิพพานะสัจฉิกิริยา จะ เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ จิตตัง ยัสสะ นะ กัมปะติ
อะโสกัง วิระชัง เขมัง เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ
เอตาทิสานิ กัตวานะ สัพพัตถะมะปะราชิตา
สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ ตันเตสัง มังคะละมุตตะมันติฯ

บทที่ 7 บทโพชฌังคปริตร (หายจากโรคภัย สุขภาพดีรับปีใหม่)

โพชฌังโค สะติสังขาโต ธัมมานัง วิจะโย ตะถา
วิริยัมปีติปัสสัทธิ โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร
สะมาธุเปกขะโพชฌังคา สัตเต เต สัพพะทัสสินา
มุนินา สัมมะทักขาตา ภาวิตกา พะหุลีกะตา
สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต สัพพะทาฯ
เอกัสะมิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง
คิลาเน ทุกขิเต ทิสะวา โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ
เต จะ ตัง อะภินันทิตะวา โรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ
เอะทา ธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปีฬิโต
จุนทัตเถเรนะ ตัญเญนะ ภะนาเปตะวานะ สาทะรัง
สัมโมทิตะวา จะ อาพาธา ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหนตุ สัพพะทาฯ
ปะหีนา เต จะ อาพาธา ติณณันนัมปิ มะเหสินัง
มัคคาหะตะกิเลสาวะ ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ

บทที่ 8 บทพุทธชัยมงคลคาถา (ชนะอุปสรรคทั้งปวง พบความสำเร็จในปีใหม่)

พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
กัตตะวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมังวิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญฯ

บทที่ 9 บทแผ่เมตตา

แผ่เมตตาให้แก่ตัวเราเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ (ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข)
อะหัง นิททุกโข โหมิ (ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์)
อะหัง อะเวโร โหมิ (ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร)
อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ (ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง)
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ (ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจ รักษากายวาจาใจให้พันจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด)

บทแผ่เมตตาทั่วไป
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวราโหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพยาปัชฌาโหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆาโหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีแต่ความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้น เถิดฯ

กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล
อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตา ปิตะโร
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า จงมีความสุข

อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข

อิทัง เม คุรูปัชฌายาจะริยานังโหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจะริยา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า จงมีความสุข

อิทัง สัพพะ เทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

อิทัง สัพพะ เปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

อิทัง สัพพะ เวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

อิทัง สัพพะ สัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

 

สวดมนต์ข้ามปี พิกัดในพื้นที่กรุงเทพ

วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร

วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร (สนามหลวง) ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เสริมบุญบารมีส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับศักราชใหม่ 2567 หรือร่วมสวดมนต์ผ่านระบบออนไลน์ โดยผู้ร่วมสวดมนต์ข้ามปีที่วัดมหาธาตุฯ สามารถรับพระสมเด็จอรหังเป็นที่ระลึกบูชา (สงวนสิทธิ์สำหรับผู้มาลงทะเบียนเท่านั้น)

พร้อมกันนี้ยังสามารถร่วมงานสมโภชพระอารามหลวง 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ได้ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2566-2 มกราคม 2567 เวลา 08.30-22.00 น.

สำหรับการสวดมนต์ข้ามปี เริ่มในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 19.00 น.เป็นต้นไป โดยรับชมการถ่ายทอดสดได้ผ่านทาง Facebook Live : งานสมโภชพระอารามหลวง ๓๓๘ ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ มาสั่งสมเสบียงบุญ เกื้อหนุนพระศาสนา โดยการร่วมบูรณปฏิสังขรณ์ ปรับภูมิทัศน์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ให้งามสง่าสืบไป

  • จอดรถที่ลานจอดรถสนามหลวง มีรถรับส่งฟรี

วัดอรุณราชวราราม

วัดอรุณราชวราราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีสวดมนต์ข้ามปี เสริมสิริมงคลทั่วไทย ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับศักราชใหม่ 2567 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เวลา 21.00 น.เป็นต้นไป

พร้อมทำบุญตักบาตรพระภิกษุ สามเณร 121 รูป รอบพระพุทธปรางค์ ในวันที่ 1 มกราคม 2567 เวลา 07.30 น. เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)

สำหรับวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ จัดพิธีสวดมนต์ข้ามปี เสริมสิริมงคล ต้อนรับปีใหม่ 2567 วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กวัดโพธิ์ ท่าเตียน Wat Pho

วัดสระเกศ

วัดสระเกศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ขอเชิญร่วมกิจกรรม พิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ เสริมสิริมงคลแก่ชีวิต ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2567 วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ผู้มาร่วมงานสามารถรับน้ำพระพุทธมนต์ ผ้ายันต์แดงห่มองค์พระเจดีย์ และปฏิทินปีใหม่ โดยมีกำหนดการ ดังนี้

  • 19.30 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์ “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” พระสงฆ์ 19 รูป
  • 21.00 น. ทำวัตรค่ำ ณ พระอุโบสถ
  • 21.30 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์นั่งอธิษฐานจิต โดยพระมหาเถระวัดสระเกศ
  • 23.00 น. กล่าวสัมโมทนียกถา ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ โดยพระเดชพระคุณพระธรรมโพธิมงคล เจ้าอาวาสวัดสระเกศ เจ้าคณะภาค 2
  • 23.30 น. การเจริญจิตภาวนา แผ่เมตตา
  • 00.00 น. พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา 9 จบ ลั่นฆ้องระฆังมงคลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พระเดชพระคุณพระธรรมโพธิมงคล ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ พระสงฆ์อนุโมทนาคาถา (ให้พร)

วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต ขอเชิญร่วมสวดมนต์ข้ามปี “วิถีใหม่ วิถีไทย วิถีธรรม พุทธศักราช 2567” วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป โดยมีกำหนดการ ดังนี้

วันที่ 31 ธันวาคม 2566

  • เวลา 18.00 น. พุทธศาสนิกชนเข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี
  • เวลา 18.30 น. คณะสงฆ์วัดเบญจมบพิตรฯ พุทธศาสนิกชน สวดมนต์-ทำวัตรเย็น
  • เวลา 20.30 น. พิธีบูชานพเคราะห์ เสริมดวงชะตา และพิธีสืบชะตาเสริมบารมี ทำความดีรับปีใหม่
  • เวลา 23.30 น. คณะสงฆ์วัดเบญจมบพิตรฯ เจริญพระพุทธมนต์
  • เวลา 23.59 น. คณะสงฆ์วัดเบญจมบพิตรฯ เจริญชยมงคลคาถา, ประพรมน้ำพระพุทธมนต์, ตีกลอง ลั่นฆ้องชัย รับศักราชใหม่ 2567, พระเดชพระคุณพระธรรมวชิราธิบดี เจ้าอาวาสกล่าวโอวาทธรรมศักราชใหม่

วันที่ 1 มกราคม 2567

  • เวลา 06.00 น. คณะสงฆ์และสาธุชน พร้อมกัน ณ พระอุโบสถ สวดมนต์ ทำวัตรเช้า รับอรุณศักราชใหม่ 567 และสาธุชนร่วมกันทำบุญตักบาตรต้อนรับศักราชใหม่

วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร

วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร ขอเชิญชวนสวดมนต์ข้ามปี เสริมศิริมงคล ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เริ่มตั้งแต่เวลา 20.30 น. เป็นต้นไป และรับประพรมน้ำพุทธมนต์ เวลา 00.00 น.

วัดหัวลำโพง

วัดหัวลำโพง เขตบางรัก วัดดังใจกลางกรุงที่โดดเด่นเรื่องการทำบุญโลงศพ ปีนี้ได้จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ขอเชิญพุทธศาสนิกชน ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 22.00 น.เป็นต้นไป

วัดเสมียนนารี

วัดเสมียนนารี เขตจตุจักร ขอเชิญร่วมสวดมนต์ข้ามปี สิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้น ตลอดปี 2567 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยมีกำหนดการ ดังนี้

วันที่ 31 ธันวาคม 2566

  • 21.00 น. พุทธศาสนิกชนเข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปี
  • 21.30 น. พระเดชพระคุณ พระเทพวรสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดเสมียนนารี พร้อมด้วยคณะสงฆ์ ประจำยังอาสน์สงฆ์รับรอง
  • จุดเทียนบูชาพระพุทธรัตนมุนีศรีศากยวงศ์, จุดเทียนบูชาเทพนักษัตร เสริมดวงชะตา เสริมบารมี, คณะสงฆ์นำพุทธศาสนิกชน เจริญพระพุทธมนต์ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
  • 23.59 น. คณะสงฆ์เจริญชยมงคลคาถา ตีกลอง ลั่นฆ้องชัย ลั่นระฆังรับศักราชใหม่ 2567, ถวายสังฆทานรับขวัญปีใหม่, พระเดชพระคุณ พระเทพวรสิทธาจารย์ กล่าวโอวาทธรรมคำพร, กรวดน้ำ รับพร ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

วันที่ 1 มกราคม 2567

  • 07.00 น. พุทธศาสนิกชน พร้อมกัน รอบพระอุโบสถ ร่วมกันทำบุญตักบาตรต้อนรับวันแรกของปีใหม่
  • 08.00 น. พระเดชพระคุณ พระเทพวรสิทธาจารย์ นำคณะสงฆ์รับบาตร

สวนโมกข์กรุงเทพ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์กรุงเทพ) ชวนร่วมเทศกาลเจริญสติ สวดมนต์ภาวนาข้ามปี พุทธศักราช 2566 “ปีใหม่ชีวิตใหม่ ปีแห่งการรู้ตัว ดูใจ” วันที่ 31 ธันวาคม 2566-1 มกราคม 2567

ทั้งนี้ ในโอกาสส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่นี้ สวนโมกข์กรุงเทพ ได้จัดงานตลอดเดือนธันวาคม ทั้งกิจกรรมทำบุญเพื่อเจริญในทานและภาวนา ทั้งศีล สมาธิ ปัญญา และกิจกรรมมากมาย ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2566-1 มกราคม 2567

ขอบคุณจากเพจ https://www.prachachat.net/d-life/news-1467337

อานิสงส์ที่ได้รับจาก สวดมนต์ข้ามปี

ทำให้มีสุขภาพดี การสวดมนต์ด้วยการออกเสียง ช่วยให้ปอดได้ทำงาน เลือดลมเดินสะดวก ร่างกายก็สดชื่นกระปรี้กระเปร่า

๒. คลายความเครียด ในขณะสวดมนต์จิตจะจดจ่อกับบทสวด สมองจะปลอดโปร่ง ไม่คิดในเรื่องที่ทำให้เครียด จึงทำให้อารมณ์ผ่อนคลาย

๓. เกิดศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัย บทสวดมนต์แต่ละบทเป็นการระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย เมื่อสวดมนต์ไปก็เท่ากับว่าได้เพิ่มพูนศรัทธาความเชื่อเลื่อมใสในพระรัตนตรัยให้มั่นคงยิ่งขึ้น

๔. ขันติบารมีย่อมเพิ่มพูน ขณะที่สวดมนต์ต้องใช้ความอดทนอย่างสูงเพื่อเอาชนะความปวดเมื่อยที่เกิดขึ้นกับร่างกาย รวมทั้งอารมณ์ฝ่ายต่ำที่จะเข้ามากระทบจิตใจทำให้เกิดความเกียจคร้าน ดังนั้น ยิ่งสวดบ่อยๆ ความอดทนก็จะเพิ่มมากยิ่งขึ้น

๕. จิตสงบตั้งมั่นเป็นสมาธิ ขณะที่สวดมนต์จิตจะจดจ่ออยู่กับบทสวดไม่วอกแวกวุ่นวายไปในที่อื่น จึงมีความสงบเกิดสมาธิมั่นคง สะอาดบริสุทธิ์ผ่องใส งดงาม แม้เพียงระยะเวลาน้อยนิด ก็เป็นบุญกุศลประมาณค่าไม่ได้

เครดิตข้อมูลจากเพจ https://www.vstarproject.com/vstarproject/page/news.php?nId_blog=577

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากเพจ www.dharayath.com

ลอยกระทง  ปี 2566  ประวัติและความเป็นมา

ลอยกระทง ปี 2566 ประวัติและความเป็นมา

ลอยกระทง ปี 2566 ปีนี้   ตรงกับวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566  จะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย เพื่อเป็นการขอขมาต่อพระแม่คงคา

 

ประวัติความเป็นมาของวันลอยกระทง

ประเพณีลอยกระทงนั้น ไม่มีหลักฐานระบุแน่ชัดว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อใด แต่เชื่อว่าประเพณีนี้ได้สืบต่อกันมายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง เรียกประเพณีลอยกระทงนี้ว่า “พิธีจองเปรียญ” หรือ “การลอยพระประทีป” และมีหลักฐานจากศิลาจารึกหลักที่ 1 กล่าวถึงงานเผาเทียนเล่นไฟว่าเป็นงานรื่นเริงที่ใหญ่ที่สุดของกรุงสุโขทัย ทำให้เชื่อกันว่างานดังกล่าวน่าจะเป็นงานลอยกระทงอย่างแน่นอน

ในสมัยก่อนนั้นพิธีลอยกระทงจะเป็นการลอยโคม โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงสันนิษฐานว่า พิธีลอยกระทงเป็นพิธีของพราหมณ์ จัดขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้า 3 องค์ คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ต่อมาได้นำพระพุทธศาสนาเข้าไปเกี่ยวข้อง จึงให้มีการชักโคม เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และลอยโคมเพื่อบูชารอยพระบาทของพระพุทธเจ้า

ก่อนที่นางนพมาศ หรือ ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ สนมเอกของพระร่วงจะคิดค้นประดิษฐ์กระทงดอกบัวขึ้นเป็นคนแรกแทนการลอยโคม ดังปรากฏในหนังสือนางนพมาศที่ว่า

“ครั้นวันเพ็ญเดือน 12 ข้าน้อยได้กระทำโคมลอย คิดตกแต่งให้งามประหลาดกว่าโคมสนมกำนัลทั้งปวงจึงเลือกผกาเกษรสีต่าง ๆ มาประดับเป็นรูปกระมุทกลีบบานรับแสงจันทร์ใหญ่ประมาณเท่ากงระแทะ ล้วนแต่พรรณดอกไม้ซ้อนสีสลับให้เป็นลวดลาย…”

เมื่อสมเด็จพระร่วงเจ้าได้เสด็จฯ ทางชลมารค ทอดพระเนตรกระทงของนางนพมาศก็ทรงพอพระราชหฤทัย จึงโปรดให้ถือเป็นเยี่ยงอย่าง และให้จัดประเพณีลอยกระทงขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยให้ใช้กระทงดอกบัวแทนโคมลอย ดังพระราชดำรัสที่ว่า “ตั้งแต่นี้สืบไปเบื้องหน้า โดยลำดับกษัตริย์ในสยามประเทศถึงกาลกำหนดนักขัตฤกษ์วันเพ็ญเดือน 12 ให้ทำโคมลอยเป็นรูปดอกบัว อุทิศสักการบูชาพระพุทธบาทนัมมทานทีตราบเท่ากัลปาวสาน” พิธีลอยกระทงจึงเปลี่ยนรูปแบบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

ลอยกระทง แนะนำลอยออนไลน์ได้ที่นี่

แนะนำเข้าไปได้ที่เว็บไซต์ sanook.com หรือคลิกลิ้งค์ https://season.sanook.com/loykrathong/

 

ตำนานและความเชื่อวันลอยกระทง

จากที่กล่าวมาข้างต้นว่า การลอยกระทง ในแต่ละท้องที่ก็มาจากความเชื่อ ความศรัทธาที่แตกต่างกัน บางแห่งก็มีตำนานเล่าขานกันต่อๆมา ซึ่งจะยกตัวอย่างบางเรื่องมาให้ทราบ ดังนี้

ว่ากันว่าการลอยกระทง มีต้นกำเนิดมาจากศาสนาพุทธนั่นเอง
กล่าวคือก่อนที่พระพุทธองค์จะตรัสรู้ เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ประทับอยู่ใต้ต้นโพธิ์ ใกล้แม่น้ำเนรัญชรา กาลวันหนึ่ง นางสุชาดาอุบาสิกาได้ให้สาวใช้นำข้าวมธุปายาส (ข้าวกวนหุงด้วยน้ำผึ้งหรือน้ำอ้อย) ใส่ถาดทองไปถวาย เมื่อพระองค์เสวยหมดแล้ว ก็ทรงตั้งสัตยาธิษฐานว่า ถ้าหากวันใดจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า ก็ขอให้ถาดลอยทวนน้ำ ด้วยแรงสัตยาธิษฐาน และบุญญาภินิหาร ถาดก็ลอยทวนน้ำไปจนถึงสะดือทะเล แล้วก็จมไปถูกขนดหางพระยานาคผู้รักษาบาดาล

พระยานาคตื่นขึ้น พอเห็นว่าเป็นอะไร ก็ประกาศก้องว่า บัดนี้ได้มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อุบัติขึ้นในโลกอีกองค์แล้ว ครั้นแล้วเทพยดาทั้งหลายและพระยานาค ก็พากันไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า และพระยานาคก็ได้ขอให้พระพุทธองค์ ประทับรอยพระบาทไว้บนฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา เพื่อพวกเขาจะได้ขึ้นมาถวายสักการะได้ พระองค์ก็ทรงทำตาม ส่วนสาวใช้ก็นำความไปบอกนางสุชาดา ครั้นถึงวันนั้นของทุกปี นางสุชาดาก็จะนำเครื่องหอม และดอกไม้ใส่ถาดไปลอยน้ำ เพื่อไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเป็นประจำเสมอมา และต่อๆ มาก็ได้กลายเป็นประเพณีลอยกระทง ตามที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน

ในเรื่องการประทับรอยพระบาทนี้ บางแห่งก็ว่า พญานาคได้ทูลอาราธนาพระพุทธเจ้า ไปแสดงธรรมเทศนาในนาคพิภพ เมื่อจะเสด็จกลับ พญานาคได้ทูลขออนุสาวรีย์จากพระองค์ไว้บูชา พระพุทธองค์จึงได้ทรงอธิษฐาน ประทับรอยพระบาทไว้ที่หาดทรายแม่น้ำนัมมทา และพวกนาคทั้งหลาย จึงพากันบูชารอยพระพุทธบาทแทนพระองค์ ต่อมาชาวพุทธได้ทราบเรื่องนี้ จึงได้ทำการบูชารอยพระบาทสืบต่อกันมา โดยนำเอาเครื่องสักการะใส่กระทงลอยน้ำไป ส่วนที่ว่าลอยกระทงในวันเพ็ญ เดือน 11 หรือวันออกพรรษา เพื่อเฉลิมฉลองวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้า เสด็จกลับมาสู่โลกมนุษย์ หลังการจำพรรษา 3 เดือน ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อแสดงอภิธรรมโปรดพุทธมารดานั้น ก็ด้วยวันดังกล่าว เหล่าทวยเทพและพุทธบริษัท พากันมารับเสด็จนับไม่ถ้วน พร้อมด้วยเครื่องสักการบูชา และเป็นวันที่พระพุทธองค์ได้เปิดให้ประชาชนได้เห็นสวรรค์ และนรกด้วยฤทธิ์ของพระองค์ คนจึงพากันลอยกระทง เพื่อเฉลิมฉลองรับเสด็จพระพุทธเจ้า

ขอบคุณเพจ https://www.sanook.com/campus/910912/

เหตุผลที่มีประเพณีลอยกระทงขึ้นนั้น เกิดจากความเชื่อหลาย ๆ ประการของแต่ละท้องที่ ได้แก่
1. เพื่อแสดงความสำนึกถึงบุญคุณของแม่น้ำที่ให้เราได้อาศัยน้ำกิน น้ำใช้ ตลอดจนเป็นการขอขมาต่อพระแม่คงคา ที่ได้ทิ้งสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ลงไปในน้ำ อันเป็นสาเหตุให้แหล่งน้ำไม่สะอาด

2. เพื่อเป็นการสักการะรอยพระพุทธบาทนัมมทานที เมื่อคราวที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ และได้ทรงประทับรอยพระบาทไว้บนหาดทรายแม่น้ำนัมมทานที ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหนึ่งอยู่ในแคว้นทักขิณาบถของประเทศอินเดีย ปัจจุบันเรียกว่าแม่น้ำเนรพุทท

3. เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ เพราะการลอยกระทงเปรียบเหมือนการลอยความทุกข์ ความโศกเศร้า โรคภัยไข้เจ็บ และสิ่งไม่ดีต่าง ๆ ให้ลอยตามแม่น้ำไปกับกระทง คล้ายกับพิธีลอยบาปของพราหมณ์

4. เพื่อเป็นการบูชาพระอุปคุต ที่ชาวไทยภาคเหนือให้ความเคารพ ซึ่งบำเพ็ญเพียรบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเลลึกหรือสะดือทะเล โดยมีตำนานเล่าว่าพระอุปคุตเป็นพระมหาเถระรูปหนึ่งที่มีอิทธิฤทธิ์มาก สามารถปราบพญามารได้

5. เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมของไทยไว้มิให้สูญหายไปตามกาลเวลา และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

6. เพื่อความบันเทิงเริงใจ เนื่องจากการลอยกระทงเป็นการนัดพบปะสังสรรค์กันในหมู่ผู้ไปร่วมงาน

7. เพื่อส่งเสริมงานฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ เพราะเมื่อมีเทศกาลลอยกระทง มักจะมีการประกวดกระทงแข่งกัน ทำให้ผู้เข้าร่วมได้เกิดความคิดแปลกใหม่ และยังรักษาภูมิปัญญาพื้นบ้านไว้อีกด้วย

ขอบคุณเครดิต เพจ https://dharayath.com/%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%97%e0%b8%87-%e0%b8%9b%e0%b8%b5-2566/

บทควาทอื่นที่น่าสนใจ  โคตรภูญาณ คืออะไร ทำไมถึงเป็นผู้เห็นภัยในการเกิดดับ

วัดธรรมมงคล ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วม พิธีเจริญพระพุทธมนต์ สมโภชกฐิน

วัดธรรมมงคล ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วม พิธีเจริญพระพุทธมนต์ สมโภชกฐิน

วัดธรรมมงคล ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วม
พิธีเจริญพระพุทธมนต์ สมโภชกฐิน
และพระพุทธรูป ภปร จำลอง 9 นิ้วเพื่อมอบเป็นที่ระลึกเจ้าภาพกฐินสามัคคี

วันเสาร์ ที่ ๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖
ณ อุโบสถ ชั้น ๒ วัดธรรมมงคล กรุงเทพมหานคร เวลา ๑๓.๕๐ น.

เวลา ๑๔.๐๐ น.
สวดมนต์ บทรัตรปริตร, นั่งสมาธิ เจริญจิตตภาวนา ๙ นาที

เวลา ๑๕.๐๐ น.
พระครูสรพจน์พิลาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดธรรมมงคล แสดงพระธรรมเทศนา

เวลา ๑๗.๐๐ น.
สวดมนต์บท พลจักรรัตนสูตร, นั่งสมาธิ เจริญจิตตภาวนา ๙ นาที
– ถวายเครื่องไทยธรรม
– เสร็จพิธี

วัดธรรมมงคล

วัดมกุฏคีรีวัน งานบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานวันละสังขารครบรอบ ๕ ปี หลวงปู่บุญฤทธิ์

วัดมกุฏคีรีวัน งานบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานวันละสังขารครบรอบ ๕ ปี หลวงปู่บุญฤทธิ์

งานบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานวันละสังขารครบรอบ ๕ ปี
พระคุณเจ้าหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต
วันอังคารที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
( ตรงกับ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๑๒ )
ณ ปัณฑิโตเจดีย์ วัดมกุฏคีรีวัน เขาใหญ่
ตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
กำหนดการ
เวลา ๑๐.๐๐. น. พระสงฆ์ – สาธุชนพร้อมกันบริเวณพิธี
เวลา ๑๑.๐๐. น. ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ – สาธุชนรับประทานอาหาร
เวลา ๑๓.๐๐ น. พระสงฆ์ทักษิณานุปทาน สดับปกรณ์ ตามลำดับจนครบ
๒๕ รูป เป็นเสร็จพิธี
ขอเรียนเชิญ เจริญพรคณะศิษยานุศิษย์ ร่วมพิธีโดยพร้อมเพียงกัน
วัดมกุฏคีรีวัน เขาใหญ่ แจ้งข่าวโดยทั่วกัน ขออำนวยอวยพร

ขอบคุณจากเพจ https://web.facebook.com/photo/?fbid=716684387166039&set=pb.100064734517026.-2207520000

หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต

ติดตาม ข่าวประชาสัมพันธ์งานบุญ อื่น

Pin It on Pinterest