อโหสิกรรม เพื่อขอขมาผู้ล่วงลับ ลดกรรมได้จริงหรือไม่

อโหสิกรรม เพื่อขอขมาผู้ล่วงลับ ลดกรรมได้จริงหรือไม่

พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่าใครทำกรรมใดไว้ ย่อมได้รับผลของกรรมนั้นแน่นอนหลีกเลี่ยงไม่ได้ กรรมใดใครก่อไว้แล้วในเมื่อใจเป็นผู้จงใจทำลงไปแล้วเป็นกรรมอันเป็นบาป ภายหลังจึงมานึกได้และไม่ต้องการผลของบาป มันก็หลีกเลี่ยงปฏิเสธไม่ได้เพราะใจเป็นผู้สั่งให้กาย วาจา ทำลงไป พูดลงไป

อโหสิกรรม นั้นเป็นผลสะท้อนทางจิตใจที่ต้องการให้ผู้ล่วงลับไปแล้วนั้นได้รับรู้ถึงจิตใจที่ไม่ต้องการผูกพยาบาทซึ่งกันและกัน นับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการให้อภัยทานซึ่งนับได้ว่าเป็นทานอันยิ่งใหญ่ เพื่อให้กรรมที่ได้ทำไว้ลดความผูกพยาบาท จึงมักจะเร่ิมจากการขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน และลำดับต่อมาได้แก่ การเข้าสู่การปฏิบัติ ตามหลัก ศีล สมาธิ และปัญญา หรือองค์มรรคแปด โดยมีหลักอิทธิบาทสี่ เป็นกำลังใจ เพื่อนำพาไปสู่หนทางของนิพพาน

การขออโหสิกรรม คืออะไร

อโหสิกรรม คือ กรรมที่เลิกแล้วต่อกัน ไม่ส่งผลแก่ผู้กระทำกรรมในภพชาติต่อๆ ไปการขออโหสิกรรม คือ การขอโทษในสิ่งที่ตนทำผิดต่อผู้อื่นด้วยใจจริง การให้อโหสิกรรม คือ การให้อภัยต่อความผิดพลาดพลั้งที่ผู้อื่นกระทำต่อตน

 

บทสวด ขออโหสิกรรม

สวดบทขอขมาอโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวร

กายะกัมมัง วะจีกัมมัง มะโนกัมมัง สัญจิจจะกัมมัง
อะสัญจิจจะกัมมัง ขะมันตุ เม อะโหสิกัมมัง ภะวะตุ เม”

เจ้ากรรมนายเวร มีทั้งฝ่ายดีและไม่ดี(เครดิตจาก https://www.thairath.co.th/news/local/670186)

ฝ่ายดี คือคอยส่งเสริมให้เราเจริญก้าวหน้า โยมทั้งหลาย บางครั้งเจ้ากรรมนายเวรก็มาในรูปแบบของคำว่าแฟน หรือบางทีก็มาในรูปแบบเพื่อนร่วมงาน ถ้าเป็นแฟนก็เป็นแฟนที่ดี เรียกว่าคู่แท้ ถ้าเป็นเพื่อนร่วมงานก็เป็นกัลยาณมิตร มิตรที่ดีที่คอยแนะนำส่งเสริมให้เราเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

ฝ่ายไม่ดี ก็จะการเบียดเบียนให้เดือดร้อนทุกข์ยากลำบาก ถ้าเป็นแฟนก็จะเป็นคู่กัด ทะเลาะกันทุกวัน แต่ก็ไม่จากกันไปไหน เพราะว่ากรรมนำพาให้อยู่ด้วยกัน เพื่อนร่วมงานก็เหมือนกัน จะคอยอิจฉา เห็นใครดีเป็นไม่ได้ ต้องคอยเตะตัดขาอยู่เรื่อย

อโหสิกรรม ตามหลักพระพุทธศาสนา เชื่อว่า ?

1) กรรมเบาบาง อยู่ร่วมกันอย่างราบรื่น สำเร็จในชีวิตนี้ และส่งผลชีวิตหน้า 

บุคคลที่ทำกรรมดีหรือกรรมชั่วโดยมีเจตนาในการทำกรรมนั้น จะต้องได้รับผลกรรมตามสมควรแก่การกระทำของตน คนที่ทำร้ายผู้อื่นคนที่คดโกงหรือฉ้อราษฎร์บังหลวงก็จะได้รับผลกรรมนั้น หรือแม้ไม่ได้รับกรรมในชาตินี้ กรรมก็จะติดตามไปส่งผลในชาติหน้า

แต่กรรมที่ทำไว้นั้นถ้าเป็นกรรมเบาอาจจะไม่ส่งผลก็ได้ หากทำให้กรรมนั้นเป็นอโหสิกรรม 
นั่นคือ ในฐานะที่ชาวพุทธ เมื่อได้ประพฤติล่วงเกินผู้อื่น ก็ควรขอให้ผู้นั้นยกโทษให้ และในทำนองเดียวกันหากมีผู้มาขออโหสิกรรมจากเรา ก็ควรยกโทษให้ ไม่อาฆาต พยาบาท จองเวรกัน เมื่อปฏิบัติได้เช่นนี้ก็จะก่อให้เกิดความรักใคร่กัน และอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข

2) อานิสงส์สูง เพราะละการยึดมั่นถือมั่นในตัวตน ยกระดับก้าวสู่มรรคผลนิพพาน

อโหสิกรรมหรืออภัยทาน-สามารถทำได้จากความเมตตาที่มีอยู่เพียงพอในจิตใจ จึงมีอานิสงส์ใกล้เคียงกับธรรมทาน ที่ถือว่ามีอานิสงส์สูง เพราะเป็นการให้ปัญญา-แสงสว่างเพื่อพัฒนาจิตใจของผู้อื่นให้ก้าวหน้าไปสู่มรรค-ผล-นิพพานในที่สุดต่อไปตามวาสนาบารมีแห่งตน

คำอธิษฐานอโหสิกรรม
ข้าพเจ้า…..(บอกชื่อ)…ขออโหสิกรรม กรรมใดที่ทำแก่ผู้ใด ในชาติใดๆ ก็ตาม ขอให้เจ้ากรรมและนายเวร จงอโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้า อย่าได้จองเวรจองกรรมต่อไปเลย แม้แต่กรรมที่ใครๆ ได้ทำกับข้าพเจ้าก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น และขอยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อไป ด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้าและครอบครัว บุตรหลาน ตลอดจนวงศาคณาญาติ และผู้มีอุปการคุณของข้าพเจ้า จงมีความสุข ความเจริญ ปฏิบัติแต่สิ่งที่ดี และสิ่งที่ชอบด้วยเทอญ

คำขอขมาโทษ (กรรมชั่ว)
กรรมชั่วอันใดที่ข้าพเจ้า…..(บอกชื่อ)…ทำไว้ ด้วยกาย วาจา ใจ ในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ เพราะความไม่รู้ เพราะความหลง เพราะความงมงาย เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอจงโปรดยกโทษ ให้ข้าพเจ้าพ้นจากความทุกข์ยาก ลำบากเข็ญใจ อันตรายทั้งหลาย จงเสื่อมสูญสิ้นไป ข้าพเจ้าปรารถนาสิ่งใดที่ดี ขอให้สมปรารถนา นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ. (อธิษฐานตามที่ปรารถนา)

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินบิดา-มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วยกาย วาจา ใจ

ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมา ข้าพเจ้าขออนุญาตมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีตขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระ ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง จงเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใด ๆ โรคภัยใด ๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลกและทางธรรม ตั้งแต่บัดนี้จนตราบเข้าสู่นิพพานเทอญ

เครดิต ข้อมูลดีๆ https://dharayath.com/

สีผ้าไตรจีวรมีกี่สีเราจะรู้ได้อย่างไรถวายผ้าไตรวัดไหนใช้สีอะไร

สีผ้าไตรจีวรมีกี่สีเราจะรู้ได้อย่างไรถวายผ้าไตรวัดไหนใช้สีอะไร

สีผ้าไตรจีวร มีอะไรบ้าง

ผ้าไตรจีวร

เครดิตจาก www.dharayath.com

สีพระราชนิยม (พระราชทาน)

  • เป็นสีกลางของพระสงฆ์ ทั้งมหานิกายและธรรมยุต หรือสีเดียวกันกับสีเดียวกับองค์สังฆราชครองเป็นสีที่พระราชทานโดย ในหลวงรัชกาลที่  ๙เช่น วัดราชบพิธ วัดบวร วัดเทพศิรินทร์ วัดชนะสงคราม วัดธรรมมงคล วัดพระรามเก้า วัดราชาธิวาส วัดโสมนัส วัดมงกุฏฯ วัดมเหยงคณ์ เป็นต้น

อ่านบทความเพิ่มเติม เกี่ยวกับ มหานิกายในประเทศไทย จาก https://th.wikipedia.org/wiki/มหานิกาย

อ่านบทความเพิ่มเติม เกี่ยวกับ ธรรมยุตนิกายในประเทศไทย จาก https://th.wikipedia.org/wiki/ธรรมยุตนิกาย

สีส้มทอง

  • เป็นสีที่นิยมพระสงฆ์นิกายมหานิกาย  และเป็นสีมาตรฐานที่นิยมทั่วไปตามวัดต่าง ๆ หรือที่มักจะเรียกว่า วัดบ้าน

สีแก่นขนุน 

  • เป็นสีที่นิยมพระสงฆ์นิกายธรรมยุต เช่นวัดป่ากรรมฐานทั่วไป หรือที่เรามักเรียกว่า วัดสายพระป่า

สีแก่นบวร

  • เป็นสีที่นิยมพระวัดป่ากรรมฐาน

สีกรัก

  • เป็นสีที่นิยมพระวัดป่ากรรมฐาน แต่มักจะนิยมในแถบวัดทางภาคอีสาน

สีกรักแดง

  • เป็นสีที่นิยมพระครูบา แต่มักจะนิยมในแถบวัดทางภาคเหนือ

อ่านเพิ่มเติมและขอขอบคุณบทความดี ๆจาก  www.dharayath.com

สีผ้าไตรจีวรมีกี่สีเราจะรู้ได้อย่างไรถวายผ้าไตรวัดไหนใช้สีอะไร ธาราญามีคำตอบ

 

และความรู้เกี่ยวกับผ้าไตร

https://dharayath.com/ผ้าไตรจีวร/

 

ทำบุญวันเกิดนี้ แนะนำ ทำบุญเพื่อเสริมดวง ให้ชีวิตรุ่งเรือง

ทำบุญวันเกิดนี้ แนะนำ ทำบุญเพื่อเสริมดวง ให้ชีวิตรุ่งเรือง

เรามักจะทำบุญวันเกิดด้วยใจที่เบิกบานมากกว่าวันปกติทั่วไป เพราะเรามักจะรู้สึกว่าเป็นที่พิเศษสำหรับเรา เมื่อครบรอบในแต่ละปีนั้นคนไทยนิยมทำบุญให้กับในวันเกิดเพื่อเสริมศิริ เสริมดวงตามความเชื่อ บทความนี้จีงขอแนะนำ การเสริมดวงวันเกิดครับ

 

เสริมดวงชะตา วันเกิดมีวิธีบ้าง (เคล็ดลับการเสริมดวง คลิกอ่าน)

 

คลิกอ่าน ความรู้เกี่ยวกับ เหมาะสำหรับ ผู้ที่เกิดวันจันทร์ถึงวันวันอาทิตย์

ทำบุญวันเกิด เสริมดวงชะตา การงาน การเงิน ปังๆ

อย่างแรกที่นิยมคือ บทสวด คาถายันทุน ที่นิยมเสริมดวงชะตาชีวิต

ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯ
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯ

คำแปล อภัยปริตร

นิมิตอันเป็นลางชั่วร้ายอันใด สิ่งอวมงคลอันใด
เสียงนกที่ไม่ชอบใจอันใด สิ่งที่น่าตกใจอันใด
บาปร้าย เคราะห์ร้ายอันใด ฝันร้ายอันใด สิ่งไม่พึงปรารถนาอันใด ที่มีอยู่
ขอสิ่งเหล่านั้นจงถึงความพินาศไป ด้วยอานุภาพแห่ง พระพุทธเจ้าฯ
นิมิตอันเป็นลางชั่วร้ายอันใด สิ่งอวมงคลอันใด
เสียงนกที่ไม่ชอบใจอันใด สิ่งที่น่าตกใจอันใด
บาปร้าย เคราะห์ร้ายอันใด ฝันร้ายอันใด สิ่งไม่พึงปรารถนาอันใด ที่มีอยู่
ขอสิ่งเหล่านั้นจงถึงความพินาศไป ด้วยอานุภาพแห่ง พระธรรมเจ้าฯ
นิมิตอันเป็นลางชั่วร้ายอันใด สิ่งอวมงคลอันใด
เสียงนกที่ไม่ชอบใจอันใด สิ่งที่น่าตกใจอันใด
บาปร้าย เคราะห์ร้ายอันใด ฝันร้ายอันใด สิ่งไม่พึงปรารถนาอันใด ที่มีอยู่
ขอสิ่งเหล่านั้นจงถึงความพินาศไป ด้วยอานุภาพแห่ง พระสังฆเจ้าฯ

หลังจากตอนเช้าทำบุญเสร็จ แล้วมาสวดมนค์ หรือกลางค้นก่อนนอน แนะนำการสวดมนต์ด้วยคาถานี้ จะทำให้มีความเป็นสิริมงคล

มูลนิธิแนะนำสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำบุญตามมูลนิธิ

ขอขอบคุณ ที่มาข้อมูลจาก (https://www.lazada.co.th/blog/how-to-donate-on-birthday/)

มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี
สำหรับมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี มูลนิธิทางการแพทย์ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ในปี 2563 เพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการรักษาพยาบาล รวมทั้งจัดหาซื้อเครื่องมือแพทย์ที่จำเป็น ส่งเสริมการดำเนินการของโรงพยาบาลราชวิถี และสนับสนุนการค้นคว้าวิจัยในด้านการรักษาพยาบาลผู้ป่วยด้วย ซึ่งสามารถบริจาคผ่านทางเคาน์เตอร์ธนาคาร ทั้งนี้เนื่องจากเป็นมูลนิธิที่กระทรวงการคลังให้การรับรองผู้บริจาคสามารถนำใบเสร็จไปใช้ในการลดหย่อนภาษีได้

มูลนิธิกระจกเงา
ถ้ากำลังมองหามูลนิธิเอกชนที่ทำประโยชน์เพื่อสังคม แนะนำให้ทำบุญกับมูลนิธิกระจกเงา องค์กรพัฒนาภายใต้การดูแลของหน่วยงานเอกชนที่ดำเนินการเกี่ยวกับการงานด้านสิทธิมนุษยชน งานอาสาสมัคร และการแบ่งปันทรัพยากรที่มีเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ด้อยโอกาสในสังคม สำหรับผู้ที่ต้องทำบุญกับมูลนิธิกระจกเงาสามารถบริจาคเงินเข้าบัญชีธนาคารหรือบริจาคสิ่งของได้โดยตรงที่ที่ทำการมูลนิธิ ส่งทางไปรษณีย์ หรือถ้าไม่สะดวกสามารถติดต่อให้เจ้าหน้าที่ไปรับของบริจาคที่บ้านได้

ศูนย์รับบริจาคหนังสือและวารสาร ห้องสมุดสตางค์ มงคลสุข
หากเจ้าของวันเกิดคนไหนที่มีหนังสือเยอะแล้วอยากแบ่งปัน แนะนำให้บริจาคไปที่มูลนิธิศูนย์รับบริจาคหนังสือและวารสาร ห้องสมุดสตางค์ มงคลสุข หน่วยงานรับบริจาคหนังสือเรียน คู่มือเตรียมสอบ นวนิยาย เรื่องสั้น การ์ตูน วารสาร นิตยสาร ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมถึงอุปกรณ์เสริมทักษะและอุปกรณ์การเรียน เพื่อนำไปส่งต่อให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน สำหรับคนที่อยากแบ่งปันสามารถนำสิ่งของไปบริจาคได้ที่ทำการของศูนย์ได้โดยตรงหรือส่งพัสดุไปทางไปรษณีย์ก็ได้

มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
“ให้อะไรก็ไม่เท่าให้โอกาส” ถ้าเจ้าของวันเกิดคนไหนมีความเชื่อแบบนี้ มูลนิธิที่กำลังมองหาอยู่คือมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ องค์กรเอกชนที่ดำเนินการช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา โดยให้ความช่วยเหลือทั้งในด้านการศึกษาตลอดจนโอกาสด้านอาชีพเพื่อให้ผู้พิการทางสายตาสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้เหมือนคนปกติ สำหรับคนต้องการบริจาคให้มูลนิธินี้สามารถโอนเงินเข้าบัญชีของมูลนิธิเท่านั้น

มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
การให้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่กับคนเท่านั้น แต่ยังให้กับสัตว์ได้ด้วย ซึ่งมูลนิธิสงเคราะห์สัตว์ที่อยากแนะนำคือ มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการที่อยู่ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน โดยทางมูลนิธิให้ความช่วยเหลือสุนัขและแมวที่เจ็บป่วย แต่ปัจจุบันทางมูลนิธิได้รับการร้องเรียนเรื่องกลิ่น ทางมูลนิธิจึงกำลังรวบรวมเงินเพื่อสร้างโรงเรือนถาวรให้กับสัตว์ที่จังหวัดนครปฐม ถ้าอยากสมทบทุนสามารถบริจาคเงินเข้าบัญชีของมูลนิธิ ส่วนอาหารกระป๋อง ชุดอุปกรณ์รักษาพยาบาล หรือของใช้สำหรับสัตว์สามารถเดินทางไปบริจาคด้วยตัวเองที่มูลนิธิ

มูลนิธิตะวันฉาย
หากใครที่ต้องการช่วยเหลือผู้ป่วยปากแหว่ง เพดานโผล่ และพิการทางศีรษะและใบหน้า สามารถติดต่อไปได้ที่มูลนิธิตะวันฉาย โดยสามารถทำได้ทั้งบริจาคเงินและสิ่งของต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือ หรือหากอยากเข้าร่วมโครงการจิตอาสาก็ทำได้เช่นกัน โดยทางมูลนิธิเปิดโอกาสให้ร่วมกิจกรรมเสริมสร้างพัฒนาทักษะในทุก ๆ วันที่สองของเดือน

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.dharayath.com

เสริมดวงโดยการ การจัดชุดสังฆทาน ตามวันเกิด (คลิกอ่านเพิ่มเติม)

คนที่เกิดวันอาทิตย์

คนที่เกิดวันอาทิตย์ จะมีจุดเด่นที่สมองและวาจา ควรรู้จักใช้ถ้อยคำที่เหมาะสมกับสถานการณ์เฉพาะหน้า และคนที่เกิดวันอาทิตย์มักทำบุญกับคนไม่ขึ้น ฉะนั้นการจัดชุดสังฆทาน ควรมีเครื่องอุปโภคและบริโภคอย่าง อาหารแห้ง เครื่องกระป๋อง เครื่องดื่ม ยาสีฟันแปรงสีฟัน สบู่ ผงซักฟอก หนังสือสวดมนต์ ร่ม รองเท้า เทียน น้ำมันตะเกียง และพระพุทธรูปปางถวายเนตร 1 องค์

คนที่เกิดวันจันทร์

คนที่เกิดวันจันทร์ เป็นคนที่มีเสน่ห์ น่าคบหา แต่มีข้อเสียอยู่ที่ปาก ที่อาจพูดล่วงเกินคนอื่นจนนำภัยมาถึงตัวได้ ซึ่งการจัดชุดสังฆทานของคนที่เกิดวันจันทร์นั้น ฉะนั้นการจัดชุดสังฆทานควรมีเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องกระป๋อง น้ำปาณะ หนังสือสวดมนต์ ร่ม รองเท้า และพระพุทธรูปปางห้ามญาติ 1 องค์

คนที่เกิดวันอังคาร

คนที่เกิดวันอังคาร เป็นคนที่ทุ่มเท จริงจังจนขาดสติ และบางครั้งก็ขยันจนไม่มีเป้าหมาย หรือทำไว้ก่อนนั้นเอง และส่วนใหญ่คนที่เกิดวันอังคารมักขาดสภาพคล่องทางการเงินบ่อย ๆ ด้วย ฉะนั้นการจัดชุดสังฆทานที่เหมาะกับคนวันอังคาร จะต้องมีเครื่องอุปโภคบริโภค หนังสือธรรมะ ผ้าไตรจีวร 1 ไตร และพระพุทธรูปปางห้ามไสยาสน์ 1 องค์

คนที่เกิดวันพุธกลางวัน

คนที่เกิดวันพุธ จะมีสมองและความคิดที่ตื่นตัวตลอดเวลา เหมาะกับการเป็นที่ปรึกษามากกว่าทำให้ตนเอง ด้วยเป็นคนที่ชอบเรียนรู้ในสิ่งแปลกใหม่ทันโลก ทันเหตุการณ์ แต่ควรระวังอย่าไปขัดผลประโยชน์ของผู้อื่น ฉะนั้นการจัดชุดสังฆทานที่เหมาะสมกับผู้ที่เกิดวันพุธกลางวัน คือ เครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ รองเท้า ผ้าอาบน้ำฝน และพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร 1 องค์

คนที่เกิดวันพุธกลางคืน

คนที่เกิดวันพุธกลางคืน จะมีไหวพริบดี กล้าเผชิญหน้ากับทุกสถานการณ์ รู้จักเอาตัวรอด แต่เป็นคนหูเบา มักเชื่อคนใกล้ชิดได้ง่าย ฉะนั้นการจัดชุดสังฆทานที่เหมาะสมกับคนที่เกิดวันพุธกลางคือ จะเป็นชุดสังฆทานยา หลอดไฟ ตะเกียงเจ้าพายุ และพระพุทธรูปปางป่าเลไลย์ 1 องค์

คนที่เกิดวันพฤหัสบดี

คนที่เกิดวันพฤหัสบดี มักมีความขัดแย้งกับผู้มีอำนาจเหนือกว่า ทำดีไม่ได้ดี ไม่ค่อยได้รับความยุติธรรมเท่าที่ควร และต้องแบกรับภาระทานผู้อื่นเสมอ ฉะนั้นการจัดชุดสังฆทานที่เหมาะกับคนที่เกิดวันพฤหัสบดี คือ จามชาม ช้อน ภาชนะต่าง ๆ เสื่อ อาสนะ เครื่องบริโภคต่าง ๆ และพระพุทธรูปปางสมาธิ 1 องค์

คนที่เกิดวันศุกร์

คนที่เกิดวันศุกร์ มักเจอรักง่าย หน่ายเร็ว เจอแต่คนเจ้าชู้ โดนนินทาว่าร้ายและมักเสียทรัพย์เพราะผู้อื่นเสมอ แต่เป็นคนที่มีความมานะอดทน ฉะนั้นการจัดชุดสังฆทานที่เหมาะกับคนที่เกิดวันศุกร์ คือ เครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ หนังสือสวดมนต์ หนังสือธรรมะ ร่ม ผ้าเช็ดเท้า โคมไฟ หลอดไฟ ผ้าไตรจีวร และพระพุทธรูปปางรำพึง 1 องค์

คนที่เกิดวันเสาร์

คนที่เกิดวันเสาร์ เป็นคนที่มีท่าทางสง่าผึ่งผาย แต่ไม่กล้าตัดสินใจอะไรเท่าที่ควร และการเงินมักรั่วไหลได้ง่าย ๆ ฉะนั้นการจัดชุดสังฆทานที่เหมาะกับคนที่เกิดวันเสาร์นั้น ควรเป็นชุดสังฆทานที่มีเครื่องอุปโภคบริโภค รองเท้า ย่ามพระ ร่ม หนังสือธรรมะ เทียน ป้ายกล่องไฟ

 

 

 

 

ตัดกรรม คืออะไร ตัดได้จริงหรือไม่ คำสอนของพระพุทธเจ้าตัดกรรมได้หรือไม่

ตัดกรรม คืออะไร ตัดได้จริงหรือไม่ คำสอนของพระพุทธเจ้าตัดกรรมได้หรือไม่

ในพระพุทธศาสนานั้น ไม่ได้สอนให้คนทำบุญแล้วกรรมที่เคยทำน้ันจะหาย หรือ ไปทำพิธีตัดกรรมใด ๆ แล้วจะทำให้ชีวิตดีขึ้น มาจากการทำพิธีนั้น ๆ  แต่จุดมุ่งหมายของศาสนาพุทธ คือ การให้เข้าถึงปัญญาของการหลุดพ้น และ เห็นการเป็นไปของ ไตรลักษณ์ ซึ่งเป็นเครื่องขนทุกข์ออกจากใจของสัตว์โลก เมื่อปฏิบัติตามคำสั่งสอนแล้ว จะทำให้เกิดปัญญา เห็นการตัดกรรมที่แท้จริงในคำสั่งสอน ด้วย หัวใจคำสอน คือ องค์มรรค8 หรือ ที่เราเรียกกัน บ่อย ๆ ว่า ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา

แต่การเร่ิมต้น ตัดกรรม นั้นมักจะมาจากการ ทำบุญ ทำทาน เพื่อละความโลก ซึ่งนำมาสู่ขั้นตอนต่อไปคือ ถือศีล เพื่อรักษาความดีนั้นไว้และรักษาไม่ให้ใจทำความชั่ว  จากนั้นจิตที่มีพื้นฐานที่ต้องสร้างให้เห็นถูกต้องนั้น มีความเข้าใจต่อการเป็นไปของกฏแห่งกรรม ซึ่งไม่มีใครจะหนีพ้นได้  จึงต้องอาศัยการภาวนา และ สร้างสติ เพื่อให้ใจนั้นเข้าไปน้อมถึง กฏ ไตรลักษณ์ เห็นว่า โลกนี้สุดท้ายแล้ว ไม่มีใครจะเป็นอมตะและหนีการตายไม่พ้น จุดนี้คือ การตัดกรรม ที่แท้จริงที่คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นท่านได้ประทานเอาไว้ให้กับชาวโลก

ตัดกรรมคืออะไร และมีความหมายอย่างไร

ขอบคุณที่มาข้อมูล จากเพจ https://dharayath.com/การ-ตัดกรรม/

การ ตัดกรรม คือ การหยุดทำความชั่วหยุดทำบาป ส่วนการตัดเวร คือ การหยุดการพยาบาทอาฆาตจองเวรซึ่งกันและกัน คือไม่แก้แค้นซึ่งกัน และกันรู้จักคำว่าให้อภัยซึ่งกันและกัน และผู้ที่ทำผิดก็ให้รู้จักคำว่าขอโทษ ผู้ที่ถูกขอโทษก็รู้จักคำว่าให้อภัย อันนี้เป็นอุบายตัดกรรมตัดเวร

กรรมคืออะไร ข้อมูลจาก (https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1_(%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98)

ในพระพุทธศาสนา กรรม (สันสกฤตकर्म กรฺม, บาลีกมฺม) แปลว่า “การกระทำที่ประกอบด้วยเจตนา” ได้แก่ กระทำทางกาย เรียก กายกรรม ทางวาจา เรียก วจีกรรม และทางใจ เรียก มโนกรรม

กรรม มีอะไรบ้าง

กรรม 2 (การกระทำ, การกระทำที่ประกอบด้วยเจตนา ทางกายก็ตาม ทางวาจาก็ตาม ทางใจก็ตาม – Kamma: action; deed) 

  1. อกุศลกรรม (กรรมที่เป็นอกุศล, กรรมชั่ว, การกระทำที่ไม่ดี ไม่ฉลาด ไม่เกิดจากปัญญา ทำให้เสื่อมเสียคุณภาพชีวิต หมายถึง การกระทำที่เกิดจากอกุศลมูล คือ โลภะ โทสะ หรือโมหะ – Akusala-kamma: unwholesome action; evil deed; bad deed) เป็นบาป กรรมชั่ว ความชั่วร้าย ความเสียหาย ความไม่ถูกต้อง ซึ่งให้ผลเป็นความทุกข์ เป็นสิ่งที่ควรเว้น การกระทำบาป กระทำความชั่ว เรียกว่าทำอกุศลกรรม เรียกย่อว่า ทำอกุศล หรือเรียกว่า ทำบาปอกุศล อกุศลกรรมเกิดมาจากอกุศลมูลอย่างใดอย่างหนึ่งใน 3 อย่างคือ โลภะ โทสะ โมหะ เพราะเมื่อเกิดอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นแล้วก็เป็นเหตุชักนำใจให้คิดทำอกุศลกรรม เช่นเมื่อโลภะเกิดขึ้นก็เป็นเหตุให้คิดอยากได้ เมื่ออยากได้ก็แสวงหา เมื่อไม่ได้ตามต้องการด้วยวิธีสุจริต ก็เป็นเหตุให้ทำอกุศลกรรมอื่นต่อไป เช่น ลักขโมย ปล้น จี้ ฉ้อโกง เป็นต้น
  2. กุศลกรรม (กรรมที่เป็นกุศล, กรรมดี, การกระทำที่ดี ฉลาด เกิดจากปัญญา ส่งเสริมคุณภาพของชีวิตจิตใจ หมายถึง การกระทำที่เกิดจากกุศลมูล คืออโลภะ อโทสะ หรืออโมหะ -Kusala-kamma: wholesome action; good deed) เป็นบุญ ความดี ความถูกต้อง ซึ่งให้ผลเป็นความสุขโดยส่วนเดียว การทำบุญ การทำความดี เรียกว่า ทำกุศลกรรม หรือเรียกย่อว่าทำกุศล กุศลกรรมที่ควรทำเป็นประจำได้แก่ ให้ทาน เสียสละ รักษาศีล อบรมจิตใจ เจริญภาวนา เรียกย่อว่าบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา ซึ่งสามารถทำได้โดยบรรเทาความโลภ ความโกรธ ความหลงให้น้อยลง เพราะถ้ายังมีความโลภ ความโกรธ ความหลงเต็มจิตอยู่ ก็ไม่สามารถทำกุศลกรรมอะไรได้

ทางตัดกรรม หรือที่ เรียกว่า หนทางดับทุกข์ ที่แท้จริง คือ องค์มรรค 8

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.tewfree.com/%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%848/

 

มรรค 8 หมายถึง หนทางสู่การดับทุกข์ ประกอบด้วย สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิได้รวบรวมสรุปมรรค 8 พร้อมความหมายของแต่ละประการ

มรรค 8 คือหนทางสู่การดับทุกข์ และ ตัดกรรม ให้พ้นทุกข์

มรรค คือ หนทางสู่ความดับทุกข์ เป็นหนึ่งใน อริยสัจ 4 จึงเรียกอีกอย่างว่า ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา หรือการลงมือปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากทุกข์ ประกอบด้วยองค์ประกอบ 8 ประการ ในธัมมจักกัปปวัตตนสูตร พระพุทธเจ้าตรัสว่าอริยมรรคมีองค์ 8 นี้เป็นทางสายกลาง คือเป็นข้อปฏิบัติอันพอดีที่จะนำไปสู่ความหลุดพ้น

ตามวิภังคสูตร พระพุทธเจ้าทรงอธิบายรายละเอียดไว้ดังนี้

สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นที่ถูกต้อง) หมายถึง ความรู้ในอริยสัจ 4
สัมมาสังกัปปะ (ความคิดที่ถูกต้อง) หมายถึง ความคิดในการออกจากกาม ความไม่พยาบาท และการไม่เบียดเบียน
สัมมาวาจา (วาจาที่ถูกต้อง) หมายถึง การเว้นจากการพูดเท็จ หยาบคาย ส่อเสียด และเพ้อเจ้อ
สัมมากัมมันตะ (การปฏิบัติที่ถูกต้อง) หมายถึง เจตนาละเว้นจากการฆ่า โจรกรรม และการประพฤติผิดในกาม
สัมมาอาชีวะ (การหาเลี้ยงชีพที่ถูกต้อง) หมายถึง การเว้นจากมิจฉาชีพ การละเว้นจากอาชีพฆ่าสัตว์ อาชีพที่เบียดเบียนผู้อื่น
สัมมาวายามะ (ความเพียรที่ถูกต้อง) หมายถึง สัมมัปปธาน 4 คือ ความพยายามป้องกันอกุศลที่ยังไม่เกิด ละอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ทำกุศลที่ยังไม่เกิด และดำรงรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้ว
สัมมาสติ (การมีสติที่ถูกต้อง) หมายถึง สติปัฏฐาน 4
สัมมาสมาธิ (การมีสมาธิที่ถูกต้อง) หมายถึง ฌาน 4

https://dhamma.watchmekorat.com/teaching-and-dhamma/#%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%99%E0%B8%A3

 

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ คำสอนสำคัญ อื่น ๆ https://dhamma.watchmekorat.com/teaching-from-buddha/

ถวายผ้าไตรจีวรพระที่ใช้ในประเทศไทยมีกี่แบบ

ถวายผ้าไตรจีวรพระที่ใช้ในประเทศไทยมีกี่แบบ

แนะนำบทความดี  ๆ ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง ผ้าไตรจีวร อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าทำไม พระแต่ละวัดใส่สีจีวรไม่เหมือนกัน แต่ก็สีใกล้เคียงกัน และรวมถึงความหนาของผ้า

ผ้าไตร คืออะไร (ข้อมูลจาก dharayath.com)

คำว่า ไตร หมายถึง ไตรที่แปลว่า สาม ดังนั้นในความหมายของผ้าไตรในการแปลแบบตรงไปตรงมา ก็จะหมายถึง ผ้าสามผืนนั่นเอง ดังนั้น เมื่อเรากล่าวถึงผ้าไตร ก็จะเข้าใจตรงกันในความหมายเดียวกันคือ ผ้าสามผืนที่พระสงฆ์ใช้สำหรับนุ่งครอง

ซึ่งในผ้าไตร 3 ผืน ก็จะประกอบไปด้วย

  1. ผ้าจีวร หรือ ผ้าห่ม ซึ่งพระสงฆ์จะเรียกว่า อุตราสงค์
  2. ผ้าสบง หรือ ผ้านุ่ง ซึ่งพระสงฆ์เรียกว่า อันตรวาสก
  3. สังฆาฏิ หรือ ผ้าซ้อน/ผ้าพาดบ่า

ผ้าไตรจีวรโดยทั่วไปจะมี 2 แบบ คือ
1.ไตรครอง หรือ ไตรเต็ม (ใช้ตอนบวช) ประกอบด้วย

-จีวร : ผ้าที่ใช้สำหรับห่มคลุม

-สบง : ผ้าที่ใช้สำหรับนุ่งในส่วนล่าง

-อังสะ : เสื้อตัวในลักษณะคล้ายเสื้อกล้าม

-สังฆาฏิ : เป็นผ้าผืนใหญ่เหมือนจีวร แต่พระเอามาใช้พาดบ่า

-ผ้ารัดอก : ผ้าที่ใช้รัดอก เวลาพระเอาสังฆาฏิพาดบ่า เพื่อให้ดูกระชับและเรียบร้อย

-รัดประคต : คือเชือกไว้รัดสบง หมีหน้าที่เสมือนข็มขัดของพระ

-ผ้าประเคน : เป็นผ้าที่ใช้รับสิ่งของ

2.ไตรอาศัย(ใช้ในชีวิตประจำวัน) ประกอบด้วย

-จีวร : ผ้าที่ใช้สำหรับห่มคลุม

-สบง : ผ้าที่ใช้สำหรับนุ่งในส่วนล่าง

-อังสะ : เสื้อตัวในลักษณะคล้ายเสื้อกล้าม

ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อ ผ้าไตรจีวร | ผ้าไตรอาศัย มีเคล็ดลับในการเลือกซื้ออย่างไร

 

ผ้าไตร 5 ขันธ์ ผ้าไตร 9 ขันธ์ มีความแตกต่างกันอย่างไร ?

ผ้าไตรจีวร 5 ขัณฑ์และผ้าไตรจีวร 9 ขัณฑ์
ขัณฑ์ คือ ลักษณะของการเย็บผ้า จำนวนชิ้นผ้าที่ตัดขาดจากกัน นำมาเย็บต่อเข้าเป็นผืนเดียวกันเช่น

ผ้าไตร 9 ขัณฑ์ คือ ผ้า 9 ชิ้น ที่นำมาเย็บต่อเป็นผืนเดียวกันใช้เป็นสบงหรือจีวร (จำนวนขัณฑ์มาก จำนวนชิ้นผ้าก็เยอะตาม)

สำหรับพระวัดทั่วไป (มหานิกาย) นิยมถวาย ผ้าไตร 5 ขัณฑ์

สำหรับพระวัดป่ากรรมฐาน (ธรรมยุติ) นิยมถวายผ้าไตร 9 ขัณฑ์ เช่น วัดสายพระป่า  วัดป่านาคำน้อย หลวงพ่ออินทร์ถวาย

https://dhamma.watchmekorat.com/tag/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%96%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2/

ข่าวเกี่ยวกับหลวงพ่ออินทร์ถวาย

ขอบคุณข้อมูลจาก dharayath.com 

ความเป็นมาของการ ทำบุญวันเกิด และ เสริมดวงในวันเกิด

ความเป็นมาของการ ทำบุญวันเกิด และ เสริมดวงในวันเกิด

การ ทำบุญวันเกิด นั้น เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้ทรงทำเป็นตัวอย่างเมื่อครั้งยังทรงผนวช ไม่ใช่ทำอย่างจีนหรือฝรั่ง โดยมีพระราชดำริว่า

การที่คนเรามีอายุวนมาบรรจบครบรอบอีกครั้ง โดยไม่ตายไปเสียก่อน ถือเป็นลาภอันประเสริฐ จึงควรยินดี บำเพ็ญกุศลและ ทำบุญวันเกิด ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ให้สมกับที่มีน้ำใจยินดี และไม่ประมาท เพราะไม่สามารถรู้ได้ว่าจะอยู่ไปบรรจบรอบปีเช่นนี้อีกหรือไม่ ถึงวันเกิดปีหนึ่งเป็นที่เตือนใจครั้งหนึ่ง ให้รู้สึกว่าอายุล่วงไปต่อความตายอีกก้าวหนึ่ง เมื่อรู้เช่นนั้น จะได้บรรเทาความมัวเมาประมาทในชีวิตเสียได้

แนะนำ  กำลังวัน เสริมดวงเกิด คลิก เสริมดวง ถวายสังฆทานชุดกำลังวัน

จึงทำให้เกิดการ ทำบุญวันเกิด ขึ้นเรียกว่า เฉลิมพระชนมพรรษา ขึ้น โดยมีการสวดมนต์เลี้ยงพระจำนวน 10 รูป และถวายสิ่งของแก่พระสงฆ์ เป็นการทำแบบเงียบๆ ต่อมาก็มีเจ้านาย ขุนนางทำบุญวันเกิดกันชุกชุมขึ้น และสืบทอดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อในสมัยพุทธกาลด้วยว่า สมัยนั้นมีสามีภรรยาพาลูกน้อยไปหาพราหมณ์ แต่พราหมณ์ทักว่าเด็กน้อยจะเสียชีวิตภายใน 7 วัน และแนะนำให้ทั้งสองคนพาลูกน้อยไปหาพระพุทธเจ้า โดยพระองค์ได้ออกอุบายนิมนต์พระสงฆ์มาสวดพระปริตร ตลอด 7 วันอันตราย เมื่อถึงเวลาที่ภัยจะมาทำร้ายก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากเด็กน้อยนอนฟังสวดพระปริตรอยู่ และด้วยพุทธานุภาพ ทำให้เด็กคนนั้นมีอายุยืนยาวถึง 120 ปี

วิธีการปฏิบัติในการทำบุญวันเกิด

อาจทำอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างก็ได้ ดังนี้

  1. ตักบาตรพระสงฆ์เท่าอายุ หรือเกินกว่าอายุ หรือกี่รูปก็ได้ตามสะดวก
  2. บำเพ็ญกุศลอุทิศให้แก่บรรพบุรุษ ที่เรียกว่า ทักษิณานุประทานก่อนแล้วจึงบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันเกิด
  3. ทำบุญ สวดมนต์ เลี้ยงพระ หรือมีพระธรรมเทศนาด้วย
  4. ถวายสังฆทาน
  5. ทำทานช่วยชีวิตสัตว์ เช่น ปล่อยนก ปล่อยปลา หรืออื่นๆ หรือบริจาคเงินเพื่อไปบำรุงโรงพยาบาล กิจกรรมด้านสังคมสงเคราะห์ และอื่นๆ อีกมากมาย
  6. รักษาศีลหรือบำเพ็ญภาวนา
  7. กราบขอพรจากบิดา มารดา ปู่ย่า ตายาย หรือผู้ที่ตนเคารพนับถือ
  8. บำเพ็ญคุณประโยชน์อื่นๆ โดยมุ่งที่การให้ มากกว่าการรับ

ของทำบุญวันเกิดในแต่ละวัน

            1. ท่านที่เกิดวันอาทิตย์ หลอดไฟ ไฟฉาย เทียน ธูป อุปกรณ์แสงสว่าง แว่นตา หมาก-พลู

            2. ท่านที่เกิดวันจันทร์ ของที่เกี่ยวกับน้ำ เช่น แก้วน้ำ แจกัน ของที่มีลักษณะโปร่ง ใส

            3. ท่านที่เกิดวันอังคาร กรรไกร ยาสีฟัน แปรงสีฟัน พัดลม กรรไกรตัดเล็บ หรือของที่เกี่ยวกับโลหะ

            4. ท่านที่เกิดวันพุธ (กลางวัน) สมุด กระดาษ ปากกา ดินสอ อุปกรณ์การศึกษา

            5. ท่านที่เกิดวันพุธ (กลางคืน) พัดลม เทปธรรมะ ยาแก้โรคลม ยาหอม ไมโครโฟน เครื่องขยายเสียง

            6. ท่านที่เกิดวันพฤหัสบดี สบง จีวร หนังสือธรรมะ ตู้ยา โต๊ะหมู่บูชา หมอน 1 คู่ อาสนะ

            7. ท่านที่เกิดวันศุกร์ ของเป็นคู่ ธูปหอม กำยาน หรือพวกเครื่องหอมต่าง ๆ

            8. ท่านที่เกิดวันเสาร์ ซื้อที่ดินถวายวัด ร่ม กระเบื้องมุงหลังคา ถวายปัจจัยบำรุงกุฏิ ห้องน้ำพระสงฆ์

 แต่ในปัจจุบันการทำบุญวันเกิด มักจะนิยมไปทำบุญถวายสังฆทานที่วัด ด้วยการทำบุญถวายสังฆทาน นั้นเป็นการทำมหาทานบารมีที่ยิ่งใหญ่ เพราะสังฆทาน เรียกว่า เป็นประธานแห่งทานทั้งปวง และในแต่ละวันเกิดก็มีการจัดชุดสังฆทานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการจัดชุดสังฆทานของแต่ละวันเกิดมีอะไรบ้าง ?

คนเกิดวันอาทิตย์ ในการถวายสังฆทานวันเกิดนั้นก็จะมีการจัดชุดสังฆทานที่แตกต่างกันออกไป อย่างคนที่เกิดวันอาทิตย์ การถวายสังฆทานวันเกิดเพื่อเสริมดวงนั้น ควรทำบุญด้วยการปล่อยสัตว์น้ำ เพราะเป็นการปล่อยทุกข์โศกลงสู่แม่น้ำ และเสริมดวงด้านเงินทองด้วยการถวายสังฆทานเครื่องอุปโภค อย่างไฟฉาย หลอดไฟ เทียน แว่นตา รวมถึงข้าวสารอาหารแห้ง เป็นต้น เพื่อให้ผลบุญหนุนนำชีวิตไปในด้านที่ดี

คนเกิดวันจันทร์ คนที่เกิดวันจันทร์นั้น ควรไปไหว้พระขอพรอยู่เป็นประจำ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และขอพรให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ส่วนการทำบุญวันเกิดด้วยการถวายสังฆทานเครื่องบริโภคอย่างสมุนไพรพร้อมชง เช่น ขิงผง ชารางจืด และน้ำมะตูม เป็นต้น หรือจะถวายกาน้ำ กระติกน้ำเป็นสังฆทานก็ได้เช่นกัน คนเกิดวันอังคาร สังฆทานวันเกิดของคนที่เกิดวันอังคาร เน้นการถวายสังฆทานวันเกิดที่เป็นข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เช่น มีดโกนและกรรไกรซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่พระสงฆ์ขาดไม่ได้ รวมไปถึงการถวายผ้าไตรจีวรเป็นสังฆทาน จะช่วยเสริมดวงในเรื่องของเงินทอง และที่สำคัญชาววันอังคารควรไปไหว้พระขอพรในวันเกิดที่วัดโพธิ์ ซึ่งมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานอยู่อีกด้วย

คนเกิดวันพุธ คนเกิดวันพุธที่อยากทำบุญวันเกิดด้วยการถวายสังฆทานนั้น ควรเลือกถวายเป็นชุดสังฆทานยาต่าง ๆ รวมไปถึงการถวายสังฆทานด้วยหนังสือธรรมะ อุปกรณ์เครื่องเขียน อย่าง สมุด ปากกา ดินสอ เป็นต้น เพราะชาววันพุธเป็นคนคิดเร็วทำเร็ว และชาววันพุธมักมีปัญหาด้านสุขภาพ การถวายสังฆทานยา หนังสือธรรมะและอุปกรณ์เครื่องเขียนเป็นสังฆทานวันเกิด จะช่วยเสริมในด้านสติปัญญาและมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย

คนเกิดวันพฤหัสบดี การทำบุญวันเกิดของคนวันพฤหัสบดี ควรหาเวลาไปปฏิบัติธรรม เพื่อสงบจิตใจและเสริมให้ชีวิตดีขึ้น แต่ถ้าอยากเสริมดวงด้านการเงิน คนวันพฤหัสบดีก็ควรถวายสังฆทานวันเกิดด้วย สบง จีวร ผ้าอาบน้ำฝน รวมถึงพระพุทธรูปเป็นสังฆทานนั่นเอง

คนเกิดวันศุกร์ ผู้ที่เกิดในวันศุกร์นั้น นอกจากการปฏิบัติธรรมเพื่อให้จิตให้สงบแล้ว ก็ควรทำบุญวันเกิดด้วยชุดสังฆทานครื่องอุปโภคทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ ถังขยะ หรือจะทำบุญด้วยการกวางลานวัด ขัดห้องน้ำวัดก็ได้เช่นกัน ซึ่งจะช่วยเสริมดวงด้านโชคลาภอีกด้วย คนเกิดวันเสาร์ สำหรับใครที่เกิดในวันเสาร์ให้ทำบุญวันเกิดด้วยการไหว้พระขอพรเป็นประจำ จะช่วยเสริมให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา หรือถ้าอยากเสริมดวงด้านการเงิน ก็ถวายสังฆทานวันเกิด ด้วยสังฆทานเครื่องอุปโภค อย่าง ร่ม ย่ามพระ รองเท้า หรือจะเป็นชุดสังฆทานยา ชุดสังฆทานผ้าไตร รวมไปถึงชุดสังฆทานเครื่องบริโภค เป็นต้น

ซึ่งการถวายสังฆทานในวันเกิดนั้น ถือเป็นเรื่องง่ายและสามารถไปถวายสังฆทานได้ในเวลาที่เราสะดวก ไม่จำเป็นต้องตื่นแต่เช้ามาใส่บาตรอย่างเช่นเมื่อก่อน เพราะฉะนั้นในปัจจุบันคนส่วนใหญ่จึงมักนิยมทำบุญด้วยการถวายสังฆทานในวันเกิดแทน

บทความให้ความรู้เกี่ยวกับ กฐินและผ้าป่า คลิกอ่านบทความ

อ่านเพิ่มเติม ทำบุญวันเกิด เสริมดวงชะตาอย่างไร

Pin It on Pinterest