
ประชาสัมพันธ์ข่าว สื่ออาสาประชาชน แจก รถเข็น ไม้เท้า สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ
เทศกาลกินเจ กำหนดตามจันทรคติ คือ เริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนของทุกปี รวม 9 วัน ซึ่งจะตรงกับเดือนตุลาคมของไทย
สำหรับเทศกาลกิจเจปี 2566 นี้กับวันที่ 15-23 ตุลาคม โดยตามธรรมเนียมต้องเริ่มเตรียมล้างท้องก่อนในวันที่ 14 ต.ค. ก่อน
ความหมาย “การกินเจ”
เครดิตข้อมูล https://www.thaipbs.or.th/news/content/332721
“เจ” ในภาษาจีนทางพุทธศาสนานิกายมหายานมีความหมายเดียวกับคำว่า อุโบสถ ดังนั้นการกินเจก็คือการรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน เหมือนกับที่ชาวพุทธในประเทศไทยที่ถืออุโบสถศีล หรือรักษาศีล 8 โดยไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้ว แต่เนื่องจากการถืออุโบสถศีลของชาวพุทธนิกายมหายานที่ไม่กินเนื้อสัตว์ จึงนิยมนำการไม่กินเนื้อสัตว์ไปรวมกันเข้ากับคำว่ากินเจ กลายเป็นการถือศีลกินเจ ในปัจจุบันผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกว่ากินเจ ฉะนั้นความหมายก็คือคนกินเจมิใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์ สะอาด ทั้งกาย วาจา ใจ
ประวัติ ความเชื่อเกี่ยวกับ “เทศกาลกินเจ”
ตามตำนานเล่าว่า เมื่อเล่าจื๊อ ศาสดาแห่งลัทธิเต๋าเกิดขึ้นได้ถือพรตของลัทธิเต๋าแต่นั้นมา เมื่อก่อนนั้น การกินเจไม่มีการกำหนดว่าจะกินกันเมื่อไร แต่ถือเอาความสะดวกของผู้กิน จะกินวันไหน เดือนไหนก็ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ผู้คนนิยมกินเจในช่วงไว้ทุกข์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการปฎิบัติตนในทางที่ดีงาม เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย
ต่อมาเมื่อเกิดกบฏไท้เผ้ง ซึ่งชาวจีนได้รวมตัวกันเพื่อต่อต้านและหวังกอบกู้แผ่นดินจากพวกแมนจู ผู้ก่อการกบฏ ถูกจับประหารชีวิต ยังความโศกเศร้าเสียใจให้กับชาวจีน จึงร่วมกันปฎิบัติธรรม โดยกินเจและถือศีล เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ถูกประหารชีวิต การกินเจจึงถูกกำหนดให้เป็นเทศกาลตั้งแต่นั้นมา
บางแห่งเชื่อกันว่ากินเจเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม
แนะนำพิกัด เที่ยวงานเทศกาลกิจเจ ระหว่างวันที่ 13-24 ต.ค.2566 นี้
1.เทศกาลกินเจ จังหวัดชลบุรี จัดงานที่ศาลเจ้าหน่าจาชาไท้จื้อ ตำบลอ่างศิลา ระหว่างวันที่ 13-24 ตุลาคม 2566
2.เทศกาลถือศีลกินเจ หาดใหญ่ จัดงานที่สวนหย่อมศุภสารรังสรรค์ จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 14-23 ต.ค.2566
3.เทศกาลถือศีลกินเจ ปราจีนบุรี จัดงานที่มูลนิธิสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน จังหวัดปราจีนบุรี ระหว่างวันที่ 14-23 ต.ค.2566
4.งานประเพณีถือศีลกินผัก พังงา จัดงานที่ศาลเจ้าในจังหวัดพังงา จังหวัดพังงา ระหว่างวันที่ 14-23 ต.ค.2566
ขอบคุณข้อมูล https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/travel/1093170
อาการอาพาธ จากการตรวจ ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กันยายน
เพื่อสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์กู้ภัยและอุปกรณ์ปฐมพยาบาล
วันที่ 16 สิงหาคม 2566 เวลา 10.30 น. ณ มูลนิธิพรหมธรรมสถานสงเคราะห์ สีคิ้ว
ติดต่อสอบถาม 044-412-061 และ 081-877-3814
ขอบคุณที่มาจากเพจ กู้ภัยสีคิ้ว
ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยครับ
https://goo.gl/maps/eaXp4RqmoYrQPbce8
วัดจุฬามณีเดิมมีชื่อเรียกว่า วัดแม่เจ้าทิพย์ สร้างมาแต่รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2172–2190 ตามประวัติว่าท่านท้าวแก้วผลึก (น้อย) ธิดาคนหนึ่งของท่านพลายซึ่งเป็นนายตลาดบางช้าง มีหน้าที่เก็บภาษีอากรขนอนตลาด ต้นวงศ์ราชนิกูลบางช้าง เป็นผู้สร้าง
ในช่วงสงครามกรุงศรีอยุธยากับพม่า ท่านนาค (ต่อมาได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี) พระอัครชายาเดิมในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ขณะทรงครรภ์แก่ ได้หลบซ่อนพม่าอยู่ในป่าทึบหลังวัดจุฬามณี ต่อมาได้มีประสูติการท่านฉิม (พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) คาดว่าสถานที่ประสูติน่าจะใกล้ต้นจันทน์อันเป็นนิวาสถานหลังเก่าของท่านเศรษฐีทอง อีกทั้งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ (แก้ว) พระพี่นางองค์ที่ 2 ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ก็ได้หลบภัยพม่ามาอาศัยอยู่กับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชด้วย กำลังอยู่ในระหว่างทรงพระครรภ์แก่และได้มีพระประสูติการพระธิดาในป่าหลังวัดจุฬามณีด้วยเช่นกัน คือสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี
ขอบคุณภาพจาก เว็บ พระเครื่อง55 .com
ในสมัยหลวงพ่อแช่ม ท่านได้ริเริ่มปลูกสร้างเสนาสนะสงฆ์และสร้างศาลาการเปรียญจนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยเมื่อปี พ.ศ. 2463 หลังจากนั้นพระเนื่อง โกวิโท ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อไป ซึ่งต่อมาก็คือพระครูโกวิทสมุทรคุณ (เนื่อง โกวิโท) จนเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2510 หลวงพ่อเนื่องสร้างอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเก่าที่เสื่อมโทรม ต่อจากนั้นพระอาจารย์อิฏฐ์ ภทฺทจาโร ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดจุฬามณีด้วยวัยเพียง 32 ปี ท่านได้สร้างอุโบสถของหลวงพ่อเนื่องที่ยังค้างอยู่ ปูพื้นอุโบสถชั้นบนสุดที่ยังค้างอยู่ด้วยหินหยก จากการาจี ประเทศปากีสถาน จนแล้วเสร็จ
อุโบสถจตุรมุข หินอ่อน 3 ชั้น กว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร ประตูหน้าต่างด้านในแกะสลักเป็นลายไทย ส่วนด้านนอกเป็นงานฝีมือสมุกรักฝังมุก มีอัลลอยด์ลายดอกไม้เถาทุกประตูและหน้าต่าง และหน้าต่างด้านนอกมีรูปเทพประจำทิศเป็นอัลลอยด์ ด้านในแกะสลักเป็นลายไทย และเรื่องราวในนิทานชาดก นอกจะเป็นงานฝีมือสมุกรักฝังมุก
ภาพตราพระราชลัญจกรของรัชกาลที่ 1–9 พระนามาภิไธยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ตราแผ่นดิน ตราเครื่องราชอิสริยาภรณ์
Cr By facebook.com/pg/chula.manee.106
ศาลาหลวงปู่เนื่อง เป็นศาลาที่สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ฝาผนังด้านในลงรักปิดทองเป็นเรื่องทศชาติชาดก ส่วนที่อยู่เหนือทางเข้าเป็นลายรดน้ำเรื่องนารายณ์สิบปาง นอกจากนั้นวัดยังมีองค์ท้าวเวสสุวรรณประดิษฐานอยู่ ณ ลานกลางแจ้งหน้าวัด (https://th.wikipedia.org)
ท้าวเวสสุวรรณ เป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ในท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 อธิบดีแห่งอสูร โดยเป็นเทพผู้ปกป้องพระพุทธศาสนา และ เป็นเทพผู้คุ้มครองโลกมนุษย์ คอยปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไปจากชีวิต อีกทั้งยังเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภที่มีขุมทรัพย์มหาศาล
แนะนำอ่าน คลิก
การแก้กรรม ควรจะแก้อย่างไรให้ถูกต้อง และได้ผลจริง !!
https://www.facebook.com/watjulamanee
คาถาบูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณ
ตั้งนะโม 3 จบ ระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดา มารดา ครูอาจารย์
ปุตตะ กาโม ละเภปุตตัง ธะนะกาโมละเภธะนัง อัตถิกาเย กายะยายะ เทวานัง ปิยะตัง สุตวาฯ
อิติปิโส ภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ มะระณังสุขัง อะหังสุคะโต นะโม พุทธายะฯ
ท้าวเวสสุวรรณโณ จตุมหาราชาชิกา ยักขะพันตาภัทภูริโต เวสสะพุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธายะฯ
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำบุญ คือ ศรัทธาด้วยกาย วาจา ใจ ที่ตั้งอยู่ในศีล ในธรรม จะนำพาการเข้าถึงการนำทางไปสู่การทำบุญที่มีความสุขและนำสิ่งที่ดีเข้ามาในชะตาชีวิต นำไปสู่การดำรงชีวิตด้วยความรุ่งเรือง
ที่มาบทความดีๆ จาก DHARAYATH.COM
ในพระพุทธศาสนานั้น ไม่ได้สอนให้คนทำบุญแล้วกรรมที่เคยทำน้ันจะหาย หรือ ไปทำพิธีตัดกรรมใด ๆ แล้วจะทำให้ชีวิตดีขึ้น มาจากการทำพิธีนั้น ๆ แต่จุดมุ่งหมายของศาสนาพุทธ คือ การให้เข้าถึงปัญญาของการหลุดพ้น และ เห็นการเป็นไปของ ไตรลักษณ์ ซึ่งเป็นเครื่องขนทุกข์ออกจากใจของสัตว์โลก เมื่อปฏิบัติตามคำสั่งสอนแล้ว จะทำให้เกิดปัญญา เห็นการตัดกรรมที่แท้จริงในคำสั่งสอน ด้วย หัวใจคำสอน คือ องค์มรรค8 หรือ ที่เราเรียกกัน บ่อย ๆ ว่า ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา
แต่การเร่ิมต้น ตัดกรรม นั้นมักจะมาจากการ ทำบุญ ทำทาน เพื่อละความโลก ซึ่งนำมาสู่ขั้นตอนต่อไปคือ ถือศีล เพื่อรักษาความดีนั้นไว้และรักษาไม่ให้ใจทำความชั่ว จากนั้นจิตที่มีพื้นฐานที่ต้องสร้างให้เห็นถูกต้องนั้น มีความเข้าใจต่อการเป็นไปของกฏแห่งกรรม ซึ่งไม่มีใครจะหนีพ้นได้ จึงต้องอาศัยการภาวนา และ สร้างสติ เพื่อให้ใจนั้นเข้าไปน้อมถึง กฏ ไตรลักษณ์ เห็นว่า โลกนี้สุดท้ายแล้ว ไม่มีใครจะเป็นอมตะและหนีการตายไม่พ้น จุดนี้คือ การตัดกรรม ที่แท้จริงที่คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นท่านได้ประทานเอาไว้ให้กับชาวโลก
ขอบคุณที่มาข้อมูล จากเพจ https://dharayath.com/การ-ตัดกรรม/
การ ตัดกรรม คือ การหยุดทำความชั่วหยุดทำบาป ส่วนการตัดเวร คือ การหยุดการพยาบาทอาฆาตจองเวรซึ่งกันและกัน คือไม่แก้แค้นซึ่งกัน และกันรู้จักคำว่าให้อภัยซึ่งกันและกัน และผู้ที่ทำผิดก็ให้รู้จักคำว่าขอโทษ ผู้ที่ถูกขอโทษก็รู้จักคำว่าให้อภัย อันนี้เป็นอุบายตัดกรรมตัดเวร
กรรมคืออะไร ข้อมูลจาก (https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1_(%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98)
ในพระพุทธศาสนา กรรม (สันสกฤต: कर्म กรฺม, บาลี: กมฺม) แปลว่า “การกระทำที่ประกอบด้วยเจตนา” ได้แก่ กระทำทางกาย เรียก กายกรรม ทางวาจา เรียก วจีกรรม และทางใจ เรียก มโนกรรม
กรรม มีอะไรบ้าง
กรรม 2 (การกระทำ, การกระทำที่ประกอบด้วยเจตนา ทางกายก็ตาม ทางวาจาก็ตาม ทางใจก็ตาม – Kamma: action; deed)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.tewfree.com/%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%848/
มรรค 8 หมายถึง หนทางสู่การดับทุกข์ ประกอบด้วย สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิได้รวบรวมสรุปมรรค 8 พร้อมความหมายของแต่ละประการ
มรรค คือ หนทางสู่ความดับทุกข์ เป็นหนึ่งใน อริยสัจ 4 จึงเรียกอีกอย่างว่า ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา หรือการลงมือปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากทุกข์ ประกอบด้วยองค์ประกอบ 8 ประการ ในธัมมจักกัปปวัตตนสูตร พระพุทธเจ้าตรัสว่าอริยมรรคมีองค์ 8 นี้เป็นทางสายกลาง คือเป็นข้อปฏิบัติอันพอดีที่จะนำไปสู่ความหลุดพ้น
ตามวิภังคสูตร พระพุทธเจ้าทรงอธิบายรายละเอียดไว้ดังนี้
สัมมาทิฏฐิ | (ความเห็นที่ถูกต้อง) หมายถึง ความรู้ในอริยสัจ 4 |
สัมมาสังกัปปะ | (ความคิดที่ถูกต้อง) หมายถึง ความคิดในการออกจากกาม ความไม่พยาบาท และการไม่เบียดเบียน |
สัมมาวาจา | (วาจาที่ถูกต้อง) หมายถึง การเว้นจากการพูดเท็จ หยาบคาย ส่อเสียด และเพ้อเจ้อ |
สัมมากัมมันตะ | (การปฏิบัติที่ถูกต้อง) หมายถึง เจตนาละเว้นจากการฆ่า โจรกรรม และการประพฤติผิดในกาม |
สัมมาอาชีวะ | (การหาเลี้ยงชีพที่ถูกต้อง) หมายถึง การเว้นจากมิจฉาชีพ การละเว้นจากอาชีพฆ่าสัตว์ อาชีพที่เบียดเบียนผู้อื่น |
สัมมาวายามะ | (ความเพียรที่ถูกต้อง) หมายถึง สัมมัปปธาน 4 คือ ความพยายามป้องกันอกุศลที่ยังไม่เกิด ละอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ทำกุศลที่ยังไม่เกิด และดำรงรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้ว |
สัมมาสติ | (การมีสติที่ถูกต้อง) หมายถึง สติปัฏฐาน 4 |
สัมมาสมาธิ | (การมีสมาธิที่ถูกต้อง) หมายถึง ฌาน 4 |
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ คำสอนสำคัญ อื่น ๆ https://dhamma.watchmekorat.com/teaching-from-buddha/