โดย admin | ต.ค. 18, 2024 | บทความน่าสนใจ
หลายท่านประสบความยากลำบากต่อการดำเนินชีวิตในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นโควิด หรือ ภาวะการเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องสร้างความเข้มเเข็งคือ จิต(ใจ) เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาตลอดปี ที่มีทั้งดีและร้าย สิ่งเหล่านี้เรามักจะนึกถึงเจ้ากรรมนายเวรที่เราล่วงเกินแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ การ ถวายผ้าไตรจีวร แก้กรรม เป็นอีกวิธีหนึ่งที่แนะนำ สำหรับครอบครัวชาวไทยที่นิยมทำบุญในวันสำคัญ ช่วงสิ้นปี และ เข้าปีใหม่พร้อมกับคนรักหรือครอบครัว และมักจะชวนกันไปทำบุญที่วัด ถวายสังฆทาน ถวายผ้าไตรจีวร และปล่อยสัตว์ทำทาน เพื่อสร้างกำลังใจ ให้รู้สึกสดชื่น และที่สำคัญคือ การขออโหสิกรรมกับเจ้ากรรมนายเวร เพื่อการเร่ิมต้นปีใหม่ให้มีความราบรื่นผ่านอุปสรรคไปได้ด้วยดี
ขออโหสิกรรม เจ้ากรรมนายเวร คืออะไร
อโหสิกรรม นั้นเป็นผลสะท้อนทางจิตใจที่ต้องการให้ผู้ล่วงลับไปแล้วนั้นได้รับรู้ถึงจิตใจที่ไม่ต้องการผูกพยาบาทซึ่งกันและกัน นับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการให้อภัยทานซึ่งนับได้ว่าเป็นทานอันยิ่งใหญ่ เพื่อให้กรรมที่ได้ทำไว้ลดความผูกพยาบาท จึงมักจะเร่ิมจากการขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน และลำดับต่อมาได้แก่ การเข้าสู่การปฏิบัติ ตามหลัก ศีล สมาธิ และปัญญา หรือองค์มรรคแปด โดยมีหลักอิทธิบาทสี่ เป็นกำลังใจ เพื่อนำพาไปสู่หนทางของนิพพาน
อ่านเพิ่มเติมเรื่อง อโหสิกรรม เพื่อขอขมาผู้ล่วงลับ ลดกรรมได้จริงหรือไม่
คำอธิษฐานอโหสิกรรม
ข้าพเจ้า…..(บอกชื่อ)…ขออโหสิกรรม กรรมใดที่ทำแก่ผู้ใด ในชาติใดๆ ก็ตาม ขอให้เจ้ากรรมและนายเวร จงอโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้า อย่าได้จองเวรจองกรรมต่อไปเลย แม้แต่กรรมที่ใครๆ ได้ทำกับข้าพเจ้าก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น และขอยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อไป ด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้าและครอบครัว บุตรหลาน ตลอดจนวงศาคณาญาติ และผู้มีอุปการคุณของข้าพเจ้า จงมีความสุข ความเจริญ ปฏิบัติแต่สิ่งที่ดี และสิ่งที่ชอบด้วยเทอญ
คำขอขมาโทษ (กรรมชั่ว)
กรรมชั่วอันใดที่ข้าพเจ้า…..(บอกชื่อ)…ทำไว้ ด้วยกาย วาจา ใจ ในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ เพราะความไม่รู้ เพราะความหลง เพราะความงมงาย เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอจงโปรดยกโทษ ให้ข้าพเจ้าพ้นจากความทุกข์ยาก ลำบากเข็ญใจ อันตรายทั้งหลาย จงเสื่อมสูญสิ้นไป ข้าพเจ้าปรารถนาสิ่งใดที่ดี ขอให้สมปรารถนา นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ. (อธิษฐานตามที่ปรารถนา)
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต
หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินบิดา-มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วยกาย วาจา ใจ
ถวายผ้าไตรจีวร แก้กรรม มีอานิสงส์อย่างไร
เพราะเหตุใด ถวายผ้าไตรแก้กรรม จึงได้อานิสงส์
การนำ ผ้าไตร มาถวายพระในทางพระพุทธศาสนานั้น มองว่าเป็นการช่วยให้พระสงฆ์ใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบาย และคลายความอันตรายต่างๆได้ ดังนั้นผู้ให้จึงได้รับบุญกุศลอย่างเต็มที่ เกิดในภพหน้าจะมีหน้าตารูปร่างสวยงาม และมีผิวพรรณผุดผ่องแจ่มใส เป็นผู้อิ่มเอมใจ อันเกิดจากการอิ่มบุญ ขจัดพ้นจากความยากลำบาก และความยากจนแสนเข็ญ
ผู้ที่ทำบุญด้วยการถวาย ผ้าไตร แด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่ จะเป็นผู้ที่พร้อมด้วยเสื้อผ้า อาภรณ์ และเครื่องประดับ มีแต่ผู้คนให้ความเคารพยกย่อง มีเกียรติ เป็นที่ยอมรับของคนทุกหมู่เหล่า หากเมื่อใดก็ตามจะต้องพบกับความมีอุปสรรค อุปสรรคนั้นจะผ่านพ้นไปด้วยดี ภัยอันตรายอื่นๆ อย่างสัตว์มีพิษและของมีคมต่างๆ ก็ทำร้ายไม่ได้
อานิสงส์ที่จะเกิดขึ้นในชาติหน้า จะเกิดมาเป็นผู้ที่มีความเพียบพร้อมด้วยหน้าตาที่งดงาม และสติปัญญาที่น่านับถืออย่างยิ่ง
แนะนำเพิ่มเติม วิธีทำบุญให้แก่เจ้ากรรมนายเวรให้ได้ผลเร็ว ได้แก่
- ถวายสังฆทาน มีข้าว น้ำ อาหารต่างๆ หรือจะเป็นยารักษาโรคก็ได้ การถวายสังฆทานมีผลมากมีอานิสงส์มาก ผลบุญกุศลจะทำให้เจ้ากรรมนายเวรพ้นจากความทุกข์ต่างๆเมื่อเขาได้รับบุญแล้วเขาจะได้อโหสิกรรมให้แก่เรา
- การถวายผ้าไตรจีวร เป็นอีกบุญกุศลอย่างหนึ่งที่ทำให้ เกิดอานิสงส์ยิ่งใหญ่ การถวายผ้าไตรจีวรนั้นมีอานิสงส์ทำให้เกิดความอิ่มเอิบบริบูรณ์ด้วยผิวพรรณวรรณะที่ดี หรือมีเสื้อผ้าอาภรณ์เครื่องนุ่งห่มที่สวยงาม ดังนั้นเมื่อถวายผ้าไตรจีวรแล้วจะทำให้เจ้ากรรมนายเวรคนจากความทุกข์ทั้งปวง
- การถวายพระพุทธรูป ก็จัดว่าการสร้างพระพุทธรูปนั้น เปรียบเสมือนตัวแทนพระพุทธเจ้าเป็นเครื่องสักการะบูชาดังนั้นบุญการถวายพระพุทธรูปจึงให้ผลมากมีอานิสงส์มากเช่นกัน ทำให้เคราะห์กรรมบางอย่างที่นอกจากเกี่ยวกับเจ้ากรรมนายเวร พลอยหมดไปสิ้นไปได้อีกด้วย
- การไถ่ชีวิตโคกระบือ หรือการปล่อยชีวิตสัตว์ให้เป็นทานเช่นปลาหน้าเขียง ในบุญข้อนี้เหมือนให้ชีวิตสัตว์ให้เขาได้มีอายุยืนต่อไป รอดพ้นจากความตาย วันนี้ก็มีอานิสงส์มากเป็นบุญอันยิ่งใหญ่เช่นกัน มีผลทำให้เจ้ากรรมนายเวรหรือโรคภัยไข้เจ็บบางอย่างค่อยๆหมดไปจากตัวเรา
ขอบคุณข้อมูลจาก เพจ https://www.sanook.com/horoscope/249699/
โดย admin | ม.ค. 31, 2024 | บทความน่าสนใจ
การแก้กรรมหลายคนพยายามที่จะแก้ไขในสิ่งที่ทำให้รู้สึกผิดหายไปหรือสิ่งที่ทำให้ทุกข์ที่เกิดขึ้นหายไป แก้กรรม ทำอย่างไรหลายท่านยังค้นหาวิธีแก้กรรมเพื่อให้เกิดการพ้นทุกข์ ถ้าตามความหมายในคำสอนแล้ว กรรม คือ การกระทำ เกิดขึ้นแล้ว ไม่สามารถมีใครไปลบล้างได้ ต้องดำเนินไปเหตุตามผล
ได้เจอหลายบทความที่น่าสนใจนำมาฝากกัน เกี่ยกกับการแก้กรรม
แก้กรรม คืออะไร
กรรม คือ การกระทำด้วยเจตนา ทั้งในอดีตชาติ หรือในปัจจุบันก็ล้วนเป็นกรรมทั้งสิ้น ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมีผลกระทบต่อปัจจุบันและอนาคต
การแก้กรรม คือ แก้ตรงที่ ให้เราสำนึกว่าตรงนั้นเราทำผิด แล้วต่อไปเราจะไม่ทำอกุศลกรรมเช่นนั้นอีกต่อไป มาทำสัญญากันใหม่ ตั้งปณิธานใหม่ เราก็ต้องมาทำสัญญากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สัญญากับเจ้ากรรมนายเวรว่าเราจะไม่ทำอกุศลกรรมเช่นนั้นอีกต่อไป
ตัดกรรม คืออะไร
ตัดกรรม คือ การหยุดทำความชั่วหยุดทำบาป การตัดเวร คือ การหยุดการพยาบาทอาฆาตจองเวรซึ่งกันและกัน คือไม่แก้แค้นซึ่งกัน และกันรู้จักคำว่าให้อภัยซึ่งกันและกัน และผู้ที่ทำผิดก็ให้รู้จักคำว่าขอโทษ ผู้ที่ถูกขอโทษก็รู้จักคำว่าให้อภัย อันนี้เป็นอุบายตัดกรรมตัดเวร
การแก้กรรม และ การตัดกรรม สิ่งที่ดำเนินเหมือนกัน คือ การขออภัย หยุดทำชั่ว และ นำไปสู่การอภัยทาน ซึ่งหัวใจก็คือ การละการทำชั่วบาป ทั้งปวงเพื่อไม่นำไปสู่ผลกรรมไม่ดีต่อกัน
แก้กรรม ขออโหสิกรรม เจ้ากรรมนายเวร คืออะไร
กรรมที่เลิกแล้วต่อกัน ไม่ส่งผลแก่ผู้กระทำกรรมในภพชาติต่อๆ ไปการขออโหสิกรรม คือ การขอโทษในสิ่งที่ตนทำผิดต่อผู้อื่นด้วยใจจริง การให้อโหสิกรรม คือ การให้อภัยต่อความผิดพลาดพลั้งที่ผู้อื่นกระทำต่อตน
คำว่า อโหสิกรรม มาจากคำ 2 คำ คือ
อโหสิ เป็นคำภาษาบาลีแปลว่า “ได้มีแล้ว” หมายความว่า ได้ให้ผลเสร็จสิ้นแล้ว
กรฺม ซึ่งเป็นคำภาษาสันสกฤต แปลว่า การกระทำ หมายถึง การกระทำที่มีเจตนา
แปลรวมกันว่า กรรมที่ไม่ส่งผลแก่ผู้กระทำกรรมอีกต่อไป
อ่านบทความเกี่ยวกับ การขออโหสิกรรม การขออโหสิกรรมคืออะไร และมีขั้นตอนอย่างไร ?
ขออโหสิกรรม ตามหลักพระพุทธศาสนา เชื่อว่า
1) กรรมเบาบาง อยู่ร่วมกันอย่างราบรื่น สำเร็จในชีวิตนี้ และส่งผลชีวิตหน้า
บุคคลที่ทำกรรมดีหรือกรรมชั่วโดยมีเจตนาในการทำกรรมนั้น จะต้องได้รับผลกรรมตามสมควรแก่การกระทำของตน คนที่ทำร้ายผู้อื่นคนที่คดโกงหรือฉ้อราษฎร์บังหลวงก็จะได้รับผลกรรมนั้น หรือแม้ไม่ได้รับกรรมในชาตินี้ กรรมก็จะติดตามไปส่งผลในชาติหน้า
แต่กรรมที่ทำไว้นั้นถ้าเป็นกรรมเบาอาจจะไม่ส่งผลก็ได้ หากทำให้กรรมนั้นเป็นอโหสิกรรม
นั่นคือ ในฐานะที่ชาวพุทธ เมื่อได้ประพฤติล่วงเกินผู้อื่น ก็ควรขอให้ผู้นั้นยกโทษให้ และในทำนองเดียวกันหากมีผู้มาขออโหสิกรรมจากเรา ก็ควรยกโทษให้ ไม่อาฆาต พยาบาท จองเวรกัน เมื่อปฏิบัติได้เช่นนี้ก็จะก่อให้เกิดความรักใคร่กัน และอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
2) อานิสงส์สูง เพราะละการยึดมั่นถือมั่นในตัวตน ยกระดับก้าวสู่มรรคผลนิพพาน
อโหสิกรรมหรืออภัยทาน-สามารถทำได้จากความเมตตาที่มีอยู่เพียงพอในจิตใจ จึงมีอานิสงส์ใกล้เคียงกับธรรมทาน ที่ถือว่ามีอานิสงส์สูง เพราะเป็นการให้ปัญญา-แสงสว่างเพื่อพัฒนาจิตใจของผู้อื่นให้ก้าวหน้าไปสู่มรรค-ผล-นิพพานในที่สุดต่อไปตามวาสนาบารมีแห่งตน
ขอบคุณเครดิตจากเพจ
แนะนำอ่านเพิ่มเติม
ตัดกรรม คืออะไร ตัดได้จริงหรือไม่ คำสอนของพระพุทธเจ้าตัดกรรมได้หรือไม่
โดย admin | ก.พ. 11, 2023 | ข่าวสาร, ธรรมะน่าสนใจ, บทความธรรมมะ, บทความน่าสนใจ
แก้กรรม ในทางศาสนาพุทธแล้วไม่มีใครแก้กรรมได้ดีที่สุด เท่ากับตัวเอง ไม่ต้องไม่มองหรือแก้ที่ผู้อื่น หรือร้องขอจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การแก้กรรมที่ดีที่สุด การนำจิต น้อมเข้าสู่กฏไตรลักษณ์ แล้ว น้อมเข้าการอโหสิกรรม ปล่อยวาง ด้วยการดำเนินตามวิถีของ ศีล สมาธิและ ปัญญา
แก้กรรม คืออะไร ?
“กรรม” การกระทำด้วยเจตนา ทั้งในอดีตชาติ หรือในปัจจุบันก็ล้วนเป็นกรรมทั้งสิ้น ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมีผลกระทบต่อปัจจุบันและอนาคต “ใครทำกรรมใดไว้ กรรมนั้นย่อมไปตกอยู่ที่ผู้กระทำ” (การ แก้กรรม สามารถช่วยได้ จากหนักเป็นเบา) ไม่มีใครหลุดพ้นหรือหนีจากกฎแห่งกรรมไปได้ วิบากกรรมของแต่ละคนก็แตกต่างกัน
วิธีการ แก้กรรม ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญ เช่น การใส่บาตร ถือศีล กินเจ ช่วยผู้ที่เดือดร้อน ถวายสังฆทาน สวดมนต์ กราบบิดามารดา ล้วนเป็นมหากุศล การทำบุญให้อธิษฐานจิตทุกครั้ง เพื่อนำส่งบุญให้ตัวเอง มีชีวิตที่ดีขึ้น เจริญขึ้น ทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนเป็นกุศลและเป็นบุญทั้งสิ้น
เรามีวิธีการแก้กรรมด้วยตนเอง 15 วิธี ดังนี้
1. ถือศีล 5 การ ถือศีล 5 เป็นประจำจะช่วยเสริมดวงชะตาและจิตใจให้ตั้งมั่นอยู่ในความดีงามการทำดีและไม่เบียดเบียนใครถือเป็นการทำบุญกุศลที่ได้อานิสงส์ เป็นผลให้เกิดความโชคดี และแก้เคราะห์ลดกรรมได้
2. การถือศีล 8 จะช่วยเสริมดวงและแก้เคราะห์ได้เช่นเดียวกับการถือศีล 5 แต่การถือศีล 8 นั้นปฏิบัติได้ยากยิ่ง แต่เมื่อปฏิบัติได้สำเร็จจะได้กุศลแรงนักปฏิบัติแล้วยังช่วยเสริมดวงอำนาจ บารมีได้
3. กินเจ ก็เพื่อลดละชีวิตสัตว์ ซึ่งได้อานิสงส์ผลบุญสูงและควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ถ้าอธิษฐานไว้ว่า 7 วัน ก็ทำให้ครบ 7 วัน อาจตั้งจิตว่าจะทำทุกวันพระและทุกเดือน หรือปฏิบัติทุกเดือน เดือนละ 3 วัน หรือ 7 วัน เป็นต้น
4. ไหว้พระและถวายดอกไม้ ธูปเทียน รวมทั้งการปิดทองคำเปลวและเครื่องหอม ผลบุญนี้จะทำให้ชีวิตรุ่งเรือง มีความเจริญก้าวหน้า
5. ถวายน้ำมันตะเกียง เพื่อความรุ่งโรจน์โชติช่วงของชีวิต เช่นเดียวกับความสว่างของแสงตะเกียง ทำให้พ้นจากความมืดมิดทั้งการดำเนินชีวิต รวมทั้งปัญหาและความคิดที่สว่างไสวไม่อับจนหนทาง
6. ถวายสังฆทาน เป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยถวายสิ่งของจำเป็นแด่พระสงฆ์ อานิสงส์ผลบุญจะส่งให้ชีวิตหมดเคราะห์หมดโศก จะทำสิ่งใดก็ราบรื่นไม่ติดขัด พบแต่ความสำเร็จสมปรารถนา รวมทั้งมีความเป็นอยู่อุดมสมบูรณ์ ไม่ขัดสน
7. ไหว้พระบูชาเทพต่างๆ จะทำให้พบกับความสุข ความเจริญ เกิดความสุขใจว่ามีที่พึ่งพิง ยึดเหนี่ยว นำมาซึ่งกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตต่อไปและรู้สึกเสมอว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คอยคุ้มครองเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง
8. ทำบุญปล่อยสัตว์ เป็นการไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น แต่ถือว่าได้บุญแรง จะต้องทำด้วยความตั้งใจจริง เช่น การไปซื้อสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่าไปปล่อย ไถ่ชีวิตวัวควายถวายวัดเพื่อมอบให้ชาวนานำไปใช้ประโยชน์ ซื้อปลาในตลาดที่จะถูกฆ่าไปปล่อยน้ำ ผลบุญนี้ยังผลให้หมดทุกข์ หมดภัย และพบความสุขความเจริญในชีวิต
9. ทำบุญ ให้ทาน เป็นการรู้จักเสียสละตนเองและแบ่งปันให้ผู้อื่น ซึ่งผลบุญจะเกิดขึ้นได้นั้นต้องมีจิตใจยินดีในการทำบุญให้ทานด้วย ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงพุทธศาสนา หรือการให้ทานเกื้อกูลคนยากไร้ ล้วนแล้วแต่เป็นบุญส่งเสริมให้ชีวิตมีโชค มีทรัพย์ และมากด้วยบารมี
10. ทำทานแก่คนยากไร้ เป็นการทำบุญที่มาจากจิตใจอันไม่ยึดติดมีความไม่โลภ ผลบุญจึงหนุนนำให้มีแต่ความราบรื่น ยามมีเรื่องติดขัดก็จะมีผู้มาช่วยเหลือค้ำจุน ยามมีเคราะห์ภัยก็จะแคล้วคลาด เพราะแรงอนุโมทนาจิตจากผู้ยากไร้ที่ได้รับสิ่งของจากเรานั่นเอง
11. ทำบุญโลงศพ ซื้อโลงศพบริจาคศพอนาถาไร้ญาติ จะได้อานิสงส์แรงยิ่งนัก การทำบุญเช่นนี้จะช่วยเสริมดวงชะตาให้แข็งแกร่งสามารถต้านเคราะห์ภัยหนักต่างๆ และผ่อนหนักเป็นเบาได้
12. พิมพ์หนังสือธรรมะแจก จัดพิมพ์เองหรือร่วมบริจาคสมทบทุนการพิมพ์กับผู้อื่นก็ได้ เป็นการเสริมดวงให้มีวาสนาบารมี เพื่อให้ปัญญาสว่าง หมดทุกข์ หมดโศก ไม่มีเคราะห์ร้ายมากล้ำกราย
13. บริจาคค่าน้ำ ค่าไฟ จะช่วยให้ชีวิตราบรื่น หมดทุกข์ หมดโศก ประสบแต่ความโชคดี
14. ซื้อข้าวสารถวายวัด เลี้ยงอาหารเด็กกำพร้าตามสถานสงเคราะห์เป็นการสั่งสมบุญกุศล เพื่อให้ชีวิตมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์และเพียบพร้อมด้วยบารมี
15. การตักบาตรร่วมขันกับผู้อื่นหรือทำบุญร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะทำบุญด้วยการบริจาคทรัพย์หรือโดยทางอื่น จะส่งผลให้เนื้อคู่ดูดี ดวงชะตาแข็งแกร่ง เกื้อกูลซึ่งกันและกัน และจะได้แต่เพื่อนที่ดีในชาตินี้
ทั้งนี้ก็ต้องหมั่นทำความดี ทำบุญตักบาตร เข้าวัดฟังธรรม ช่วยเหลือผู้อื่นไปด้วยจึงจะเป็นการสร้างกรรมดีให้เกิดขึ้นกับตัวเราเอง การที่เรามีจิตใจดี หรือตั้งใจดี ทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนเป็นกุศล และเป็นบุญทั้งสิ้นครับ
ขอขอบคุณและเครดิตบทความดี ๆ จากเว็บ dharayath.com