สมาธิ คืออะไร ฝึกนั่งมีวิธีใดบ้าง และ สมาธิมีกี่ประเภท

สมาธิ คืออะไร ฝึกนั่งมีวิธีใดบ้าง และ สมาธิมีกี่ประเภท

สมาธิ เป็นการรวบรวมสภาวะจิตใจให้แน่วแน่ และเป็นหนึ่งในวิธีฝึกจิตให้นำไปสู่ความสงบ ที่เรียกว่า สมถะ คือทำใจห้สงบก่อนแล้วจิตจะพัฒนาสู่การเห็นความเป็นจริงตามวิปัสนา
หลายท่านกำลังฝึกการนั่งสมาธิ และฝึกมาหลายที่ จนทำให้งง ว่าตกลงแล้วต้องเร่ิมตรงไหนทำอย่างไรก่อน  แล้วดูลมหายใจ พุทโธ จะเร่ิมอย่างไรกับสมาธิ บทความนี้มีมาฝากรับรอง ไม่หลงเพราะทำตาม ครูอาจารย์ที่ท่านได้ปฏิบัติดี
หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง ท่านได้ให้ไว้ คือ ทำจิตให้สงบเสียก่อน ที่เราเรียกว่า สมถะ ความสงบอยู่ที่เรา ไม่ได้อยู่ที่สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ควบไปกับ ลมหายใจ อานาปณสติ ไม่ต้องสนใจใด ๆ ให้รู้อย่างเดียว ไม่ต้องไปบังคับ ได้แค่ไหนก็แค่นั้น ทำไปเรื่อย ๆ จะพัฒนาขึ้นเอง
แล้วจะเห็นความอัศจรรย์จากจิตที่สงบ นัตถิ สันติ ปะรัง สุขขัง ไม่มีสุขใดเหนือกว่า ความสงบ
Update สมาธิ คือ อะไร

สมาธิ คืออะไร

สมาธิ (บาลี: Samādhi; สันสกฤต: समाधि) หมายถึงความสำรวมใจให้แน่วแน่เพื่อให้จิตใจสงบหรือเพื่อให้เกิดปัญญาเห็นแจ้ง[1]

การทำสมาธิมีปรากฏในหลายศาสนา เช่น ศาสนาพุทธ ศาสนาฮินดู และลัทธิเต๋า และยังคงรวมถึงสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับศาสนา เช่น โยคะ

เครดิตเพจ https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4

การสำรวมภาวะของจิตใจ ให้แน่วแน่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อทำให้จิตใจมีความนิ่งเงียบสงบ และนำไปสู่การเกิดสติปัญญา มักจะเรียกควบคู่ว่า สติสัมปชัญญะ (สติคือ ความรำลึกได้ สัมปรัญญะคือความรู้ตัว) สมาธิต้องอาศัยจิตเข้ามารู้ตัวสมาธิ แปลตามบาลีแปลว่าอะไร
สมาธินั้น ตามบาลีนั้นแปลว่า ความตั้งใจมั่น การทำสมาธิในทางพุทธศาสนา เรียกว่าสมถะ
สมาธิ คืออะไร

สมาธิแบ่งออกเป็น 3 ระดับ

1. ขฌิกสมาธิ
คือ สมาธิชั่วขณะ ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถนำมาใช้การงานในชีวิตประจำวัน เช่นใช้อ่านหนังสือ หรือขับรถขณิกสมาธิ เหมือนเด็กที่เพิ่งหัดเดินขณิก(ชั่วขณะ) + สมาธิ(ความทรงไว้พร้อม ความตั้งมั่น)สมาธิที่เป็นไปชั่วขณะ หมายถึง เอกัคคตาเจตสิกที่เกิดกับจิต ที่เป็นไปตามปกติของบุคคลทั่วไป เช่น ขณะที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สัมผัส ขณะที่ยืน เดิน นั่ง นอนตามปกติ ก็มีขณิกสมาธิเกิดร่วมด้วย
2. อุปจารสมาธิ
สมาธิเฉียด ๆ หรือจวนจะแน่วแน่ อุปจารสมาธิ สมาธิที่แน่วแน่มากกว่าขณิกสมาธิ แต่แน่วแน่น้อยกว่าอุปจารสมาธิ เหมือนเด็กที่เดินได้คล่องและเร่ิมจะวิ่งเป็นสมาธิที่เริ่มเป็นหนึ่ง ข้อสังเกตง่ายๆ ของผู้ปฏิบัติสมาธิ คืออารมณ์กรรมฐานเริ่มเป็นหนึ่ง เสียงหรืออารมณ์ภายนอกไม่สมารถเข้ามารบกวน ให้อารมณ์กรรมฐานถอยออกมาง่าย
3. อัปปนาสมาธิ
สมาธิที่แน่วแน่แนบสนิท เป็นการเจริญสมาธิในขั้นฌาน ถือเป็น ความสำเร็จสูงสุดของการเจริญสมาธิ อัปปนาสมาธิ อัปปนาสมาธิ สมาธิที่ไม่หวั่นไหว หมายถึงสมาธิระดับฌานสมาบัติ ปฐมฌาณขึ้นไปอัปปะนาสมาธิของปฐมฌาน เปรียบดังเด็กที่วิ่งได้อย่างคล่องแคล่วหมายถึงหมดความรู้สึกไปชั่วขณะหรือเป็นขณะๆ หรือเป็นวัน ตามกำลังสมาธิและความชำนาญ

ธรรมะ คือพุทธะ และ การทำ สมาธิ หรือ สมาธิ คืออะไร

สมาธิ นั้นต้องทำสมะ หรือ วิปัสสนา ก่อน ทำอะไรก่อนกันแน่

เป็นคำถามที่พบเจอบ่อยมากกับผู้ที่ฝึกสมาธิ  

เพราะ อาจารย์นั้นบอกอย่างนั้น อาจารย์นี้บอกอย่างนี้  คนนั้นบอกให้ทำสมถะก่อน บางคนบอกว่าทำ วิปัสนาเลย ทำให้เกิดความลังเล

ถ้าโดยพื้นฐานตามปกติ เบื้องต้นแล้ว ควรทำให้เกิดจิตที่เป็นสมถะ หรือ ให้จิตสงบนิ่ง ให้ได้ก่อน เพราะคนเรามีสติปัญญา และ วาสนา(บุญของเก่า) ไม่เท่ากัน

เพราะบางคนมีจิตที่สงบและเป็นสมาธิง่าย หรือ มีจิตที่เข้มเข้มมาตั้งแต่เดิม ลองนึก บางคนกกลัวงู แต่บางคนไม่กลัวงู บางคนจับจิ้งจกได้ แต่บางคนกลัวจิ้งจก จะเห็นได้ว่าพื้นฐานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้น ถ้าจะให้เร่ิมขั้นต้นได้ง่ายไม่ต้องไปคิดอะไรมากว่าอ่านแล้วไม่เข้าใจ ก็ให้กำหนดรู้ว่า ไม่เข้าใจ และทำเดินสมาธิต่อไป นั่งดูให้จิตเป็นสมถะ พอจิตนั่งแล้ว การจะเข้าไปดูวิปัสนากรรมฐาน ก็จะเห็นชัดได้ง่าย ไม่สงสัยลังเลย

การฝึกสมาธิเบื้องต้นทำอย่างไร

การฝึกสามาธิที่นิยมคือ อานาปานสติ คือ กำหนดจิตให้ตั้งมั่นใน ลมหายใจ กำหนดรู้เข้า หายใจออก กำหนดให้รู้ลมหายใจออก เมื่อลมผ่านที่ปลายจมูกเข้ามาให้กำหนดรู้ ค่อยปล่อยผ่านลงท้อง ไม่ต้องไปบังคับมันว่าลมต้องผ่าน ได้เท่าไหนก็ปล่อยลงไปถึงตรงนั้น ถ้าให้ดีค่อย ๆปล่อยถึงท้อง โดยผ่านลงมาจากหน้าอกสู่ท้อง หรือบางครั้งหลายท่านมักเรียกว่า กำหนดลมมาที่สะดือ แล้วปล่อยลมออก มาที่ปลายจมูก รับรู้อย่างนี้เรื่อยไป ไม่ต้องเร่งรีบ ได้เท่าไหนทำเท่านั้น เดี๋ยวจิตจะพัฒนาความรู้สึกไปเรื่อย ไม่ต้องไปบังคับ ปล่อยตามสบายให้ เน้นว่า รู้เท่านั้น ว่าลมเข้ามาแล้ว และลมออกมาแล้วที่ปลายจมูก

นั่งสมาธิกำหนดกายนั่งอย่างไร

ตั้งกายให้ตรง สติให้ตั้งมั่น แล้วกำหนดรู้ลม เน้นยำ เอาแค่กำหนดรู้ลม ไม่ต้องไปบังคับ เพราะจิตมนุษย์มันจะชอบท่องเที่ยว พอหลับตาก็จะเหมือนลิงกระโดดไปตามต้นไม้ต่าง ๆ จึงแนะนำว่าให้กำหนดรู้ ถ้าจิตส่งออกไปข้างนอกคิดถึง คนโน้น คนนี้ ก็ปล่อยมัน แล้วพอรู้ตัว ก็มานั่งดูลมหายใจใหม่ ทำอย่างนี้เรื่อยไป สักระยะ จิตจะเร่ิมอยู่กับที่ที่ลมหายใจ จึงเร่ิมเข้าสู่ สมาธิที่เกิดตามระดับต่าง ๆ

เครดิต จากบทความ https://dharayath.com/

Pin It on Pinterest